เมื่อศิลปินควบตำแหน่งพิธีกร ..150 นาทีที่เปล่งประกายใน “ไฮไลต์โชว์ อิน แบ็งคอก”

W.K.언니 ([email protected])

ใช้เวลารอถึง 2 ปี 6 เดือน เพื่อจะได้สร้างความทรงจำครั้งใหม่รวมกันในเวลา 150 นาที สำหรับบอยแบนด์วง “ไฮไลต์” (Hightlight) และแฟนคลับของพวกเขาที่มีชื่อเรียกว่า ไลท์ โดยผู้จัดน้องใหม่ Five Four Live ของสัว ศุภชัย กาญจนศักดิ์ชัย กราฟ โอสธี ซุ่นมงคล และมัดหมี่ พิมพ์ดาว พานิชสมัย ร่วมกับ บริษัท อราวด์ อัส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (AROUND US ENTERTAINMENT) จัดงาน “ไฟว์ โฟว์ ไลฟ์ พรีเซ็นต์ 2018 ไฮต์ไลท์ โชว์ อิน แบงค็อก” (Five Four Live Present 2018 HIGHTLIGHT Show in Bangkok) ที่แจ้งวัฒนะฮอล์ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ไปเมื่อเร็วๆ นี้

ครั้งนี้พวกเขามาไทยเพียง 4 คน คือ ยงจุนฮยอง, ยางโยซอบ, อีกีกวัง และซนดงอุน ขาดแต่ ยุนดูจุน ลีดเดอร์ของวงที่อยู่ในระหว่างการเตรียมเข้ากรมทหาร ซึ่งตามกฎหมายของเกาหลีระบุห้ามออกนอกประเทศ เมื่องานเริ่มขึ้นแสงสีรอบเวทีระดมใส่ไปที่ทั้ง 4 คน พวกเขาโดดเด่นสมกับชื่อวงไฮไลต์ โชว์แรกกับเพลง Can Be better ตามมาด้วยเพลง Calling You เปอร์ฟอร์แมนซ์มาเต็มตั้งแต่เริ่มเลยทีเดียว หลังจากนั้นพวกเขาต้อนรับไลท์ไทยทุกคนเข้าสู่ไฮไลท์ โชว์..

พวกเขาแนะนำตัวทีละคน จากนั้นเข้าสู่ช่วงทอล์ค ซึ่งไม่ว่าเมมเบอร์คนไหนจะพูดอะไร หรือกล้องจับภาพไปที่ใคร บรรดาไลท์ก็กรี๊ดกันถล่มทลาย พวกเขารู้ว่าหายกันไปนานกว่า 2 ปี และขอบคุณที่มาให้กำลังใจมากมายในวันนี้ เมื่อพูดถึงความประทับใจของพวกเขาในหลายประเทศที่ผ่านมาจนถึงเมืองไทย พวกเขาบอกว่า คือ การได้อยู่ท่ามกลางแฟนคลับนั่นเอง

ไฮไลต์ได้อัพเดทการทำงานของแต่ละคน เริ่มที่ กีกวัง ที่เล่าว่าอยู่ระหว่างถ่ายทำซีรีส์ และจะออนแอร์ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ ฝากให้ติดตามกันด้วย ตามมาด้วย ดงอุน เขาบอกว่าตอนนี้เป็นพิธีกรรายงาน school attack ซึ่งจะถ่ายทำร่วมกับนักเรียนมัธยม นอกจากนี้ยังจัดรายการวิทยุให้กับ NAVER ทุกวันพุธ ด้าน จุนฮยอง บอกว่า มีถ่ายซีรีส์ เขารับบทเป็นโปรดิวเซอร์ในเวปตูน ขณะที่โยซอบเองก็จัดรายการวิทยุทุกวัน และเมื่อเร็วๆ นี้ มีคอนเสิร์ตโซโล่เดี่ยวของเขาที่เกาหลีด้วย ซึ่งแฟนคลับมากันเยอะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

พอมาถึงจุดนี้ก็ไม่แปลกใจแล้วว่า ทำไมงานแฟนมีตติ้งในวันนี้ “ไม่มีพิธีกร” พวกเขาคุมเวที คุมเวลาได้ดีมาก ไม่มีช่วงเงียบบนเวทีเลย ดูเป็นหนึ่งเดียวกัน มีจังหวะจะโคนที่ดี ที่สำคัญบนเวทีพวกเขาดูเป็นสดใสเป็นธรรมชาติ ประสบการณ์จากการจัดรายการวิทยุได้สร้างความเป็นมืออาชีพในการพูดให้พวกเขาอีกด้วย

โยซอบถามเมมเบอร์ว่า มีใครเคยมาเที่ยวเมืองไทยบ้าง กีกวังบอกว่าเขาเคยมาเที่ยวกรุงเทพและยังได้ลองนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินอีกด้วย ปรากฏว่ามีแฟนคลับจำหน้าเขาได้ แฟนคลับเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยจาก 4 คน เป็น 10 คน และมากกว่า 20 คน สุดท้ายเดินกันเป็นกลุ่มใหญ่ ไลท์ในฮอล์ขำไปกับเรื่องราวของกีกวัง

จุนฮยองบอกว่ายังไม่เคยมาเที่ยวเมืองไทย แต่ก่อนหน้านี้พวกเราไปถ่ายทำรายการท่องเที่ยวและเคยไปเที่ยวด้วยกันที่ฮาวาย รวมถึงดิสนีย์แลนด์ที่ญี่ปุ่น และได้เล่น “สกายไดรฟ์” จุนฮยองเม้าท์ดูจุนว่า “พี่ดูจุนกลัวมากครับ” ไลท์หัวเราะลั่นฮอล์ หลังจากนั้นพวกเขาถามกันเองว่าถ้าต้องไปเที่ยวอยากชวนใครในวงไปด้วย เป็นช่วงที่อาการจิ้นของไลต์เริ่มทำงาน และพวกเขาตบท้ายว่าที่ถามเรื่องการเดินทางท่องเที่ยว เพราะอยากให้พวกเราเดินไปด้วยกันจนถึงเวทีสุดท้าย..ล้ำลึก

เข้าสู่ช่วงชุลมุนที่สุดของงานครั้งนี้ แต่สนุกมากคือ “เล่นเกมส์” ซึ่งเมมเบอร์แต่ละคนต้องคิดเกมส์ของตัวเอง เริ่มที่เกมส์ เดาะบอล ใครเดาะได้มากที่สุดชนะ ไม่ว่าเมมเบอร์คนไหนจะเริ่มเดาะบอล พวกเขาก็ให้กำลังใจด้วยภาษาไทยว่า “สู้ๆ” ด้านดงอุน น้องเล็ก ขอเดาะบอลโดยใช้แขน เพราะไม่ถนัด โยซอบเดาะได้ถึง 39 คะแนน พอมาถึงกีกวัง ก็ลบสถิติโยซอบทันทีที่ 45 คะแนน กลายเป็นผู้ชนะในเกมส์นี้ และผู้ชนะก็ได้รางงวัลเป็น “ชอล์คสี” แต่ดูจากหน้ากีกวังดูช็อคกับรางวัลมาก ถัดมาคือเกมส์ วางขวดน้ำ เกมส์วางและปาหินอ่อน และดับเทียนด้วยดาบ พวกเขาผลัดกันแพ้-ชนะ ผลัดกันทำลายสมาธิในระหว่างเล่นเกมส์ เหล่าไลท์นั่งขำจนน้ำตาจะไหล

จากนั้นจอยักษ์บนเวทีก็ฉาย VTR เบื้องหลังการเตรียมงานแฟนมีตติ้งของพวกเขาทั้ง 4 คน อย่างคร่ำเคร่ง ซึ่งในคลิปนี้มีดูจุนอยู่ด้วย เสียงกรี๊ดกระหึ่มมาก หลังจากนั้นพวกเขากลับมาบนเวทีอีกครั้งเพื่อโชว์ต่อในเพลง Celebrate แน่นอนว่าเพลงนี้ไลต์ร้องตามดังก้องไปทั้งฮอล์ และเพลง Good Luck ที่โยซอบแสดงพลังเสียงสุดยอด เพลงที่แล้วไลท์ช่วยร้องดังแล้ว เพลงนี้สนั่นกว่าเป็นเท่าตัว

รอบพูดคุยในช่วงต้นยังไม่ได้สัมผัสตัวตนพวกเขามากนัก พวกเขาพักโชว์มานั่งจ้อคุยกับไลท์ต่อ พวกเขาถามว่า สนุกกันหรือไม่ แน่นอนไลท์ตอบเสียงดังฟังชัดว่าสนุกมาก โยซอบเล่าว่าเขาชอบข้าวผัดแบบไทยมาก และถึงแม้ว่าจะมาถึงเมืองไทยค่อนข้างดึก แต่เขาก็ยังได้กินก่อนนอน และยังบอกอีกว่าขอบคุณแฟนคลับที่มารอต้อนรับ เพราะมีทุกคนพวกเราถึงมีวันนี้ได้ พวกเขาบอกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนั้นว่า “การที่ทุกคนร่วมกันสนุกและคอยให้กำลังใจ พวกเรามองเห็นสิ่งเหล่านั้นครับ และทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้นด้วย

จุนฮยองเล่าว่า เวลาที่มาเมืองไทยจะมีที่ไปประจำคือที่แมคโดนัลล์ เขาชอบพายข้าวโพด ที่สำคัญมีขายเฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น และสำหรับวันนี้ขอให้ทุกคนร่วมสนุกไปกับพวกเรา และพวกเขาก็เปิดโชว์ช่วงต่อไปกับเพลงซึ้งๆ จากเพลง 12:30 เพลงช้าที่ไลท์ร้องตามดังมากอีกเพลง ตามมาติดๆ กับเพลง Ribbon

เมื่อมาถึงช่วงท้ายของงาน 2018 ไฮต์ไลท์ โชว์ อิน แบงค็อก พวกเขาเล่าความรู้สึกว่า ความทรงจำในวันนี้พวกเราจะเก็บไว้และใช้ทุกวันให้มีค่า เพื่อให้ได้กลับมาเจอกับทุกคนอีก ในช่วงที่ไม่เจอกันพวกเราจะคิดถึงพวกคุณ หลังจากนั้นเหล่าไลท์ก็เซอร์ไพรส์ไฮไลต์ จอยักษ์พบนเวทีฉายภาพนับตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเดบิวต์ จนถึงผลงานล่าสุด พร้อมให้สัญญาว่าจะรอการกลับมาของพวกเขา และยังย้ำอีกว่า “พวกเรารอเก่ง” นอกจากนี้ยังเซอร์ไพรส์วันเกิดย้อนหลังให้กับดงอุน และดูจุนอีกด้วย ดงอุนบอกจะเป่าเค้กให้เป็น 2 เท่าเลย

พวกเขายังบอกอีกว่า ภาพประทับใจที่เกิดขึ้นในวันนี้อยากให้ดูจุนได้เห็นด้วยเช่นกัน ทั้งไฮไลต์และไลท์จึงถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึก อย่างไรก็ตามพวกเขาสัญญาว่าจะกลับมาเมืองไทยอีกแน่นอน และจะพัฒนาทุกด้านให้ดีขึ้น ที่สำคัญจะพาลีดเดอร์ ดูจุน มาให้ได้แน่นอน ในขณะที่บรรยากาศกำลังซึ้งทิ้งทวนอยู่ดีๆ แต่โยซอบดันหลุดขำบนเวที เพราะหันไปเห็นรูปดูจุน ในแบบตลกๆ หลายเวอร์ชั่นขึ้นมา พอตั้งสติแล้ว จุนฮยอง พากลับมาสู่โหมดซึ้งอีกว่า ขอโทษที่ให้รอกันนานขนาดนั้นและอยากให้รอพวกเราหน่อย

จากนั้นพวกเขาโชว์ในช่วงสุดท้ายไปกับเพลง Take On Me เป็นช่วงที่ทั้งศิลปินและแฟนคลับรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการร่วมกันร้องเพลง และพวกเขาก็ทิ้งท้ายครั้งนี้กับโชว์ในเพลง Can You Feel It? และเพลง It’s A Beautiful Night แสง สี ด้านหน้าเวทีค่อยๆ กลืนพวกเขาไปเรื่อยๆ ไฟบนเวทีดับลงเหลือเพียงข้อความว่า Hightlight Show

เชื่อว่าตลอด 150 นาทีที่เต็มไปด้วยความสนุก ได้กลายเป็นความทรงจำใหม่ของคนรอเก่งอย่างไลท์แน่นอน….