“ดงบังชินกิ-แคสสิโอเปีย” ตอกย้ำ รักเหมือนวันแรกที่เจอ ใน TVXQ CONCERT-CIRCLE-#welcome in BANGKOK

โดย W.K.언니 ([email protected])

 

“ผมไม่ได้มองว่าจะกำไรหรือขาดทุน ผมก็จะจัดคอนเสิร์ตให้ดงบังชินกิในไทยไปเรื่อย ๆ ด้วยโปรดักชั่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เหมือนเราเติบโตมาด้วยกัน มันคือความผูกพัน”

และนั่นคือความตั้งใจของ “วุธ” อนุวัฒน์ วิเชียรณรัตน์ ในฐานะประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท โฟโนล็อค  จำกัด (4NOLOGUE) และความตั้งใจนั้นถูกสร้างสรรค์แล้วอย่างน่าประทับใจในดงบังชินกิ คอนเสิร์ต-เซอร์เคิล–#เวลคัม อิน แบงค็อก (TVXQ CONCERT-CIRCLE-#welcome in BANGKOK) ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ (17 ส.ค. 61) ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี

ในวันนั้น ดงบังชินกิ เตรียมโชว์มาเต็มที่เพื่อแคสสิโอเปีย (ชื่อแฟนคลับของดงบังชินกิ) เท่าที่นับได้ประมาณ 26 เพลง จากอัลบั้มเก่าและอัลบั้มใหม่ล่าสุด New Chapter #1 : The Chance of Love รวมเวลากว่า 2 ชั่วโมง ที่พวกเขาได้ร่วมกันสร้างความทรงจำครั้งใหม่ หลังจากไม่ได้เจอกันกว่า 3 ปี นับตั้งแต่ที่พวกเขาเข้าเกณฑ์ทหาร แต่ก็ทิ้งสเปเชียลอัลบั้ม Rise As God ไว้ให้ฟังฟิน ๆ

บนเวทีหลัก ยุนโฮ (U- know) และ ชางมิน (MAX) ที่ทุกคนรอคอย เปิดตัวสุดอลังการด้วยทักซิโด้เนี้ยบประหนึ่งเจ้าชาย กับโชว์แรกในเพลง Bounce ทั้ง 2 คนมีของเล่นโชว์สุดเก๋ด้วยไม้เท้า โปรดักชั่นแสงสี เสียง พลุ ทำงานเต็มอัตราตั้งแต่เพลงแรก เป็นเครื่องยืนยันว่า ผิดจากนี้ไม่ใช่โปรดักชั่นจาก 4NOLOGUE และชางมิน ผู้หลงใหลเสียงสูงของตัวเองก็จัดเต็ม นี่ขนาดนั่งในจุดที่เรียกว่า “ดอย” ยังรู้สึกถึงพลังการร้องของเขาได้แบบเต็ม ๆ

ตามมาด้วยโชว์ในเพลง Something เพลงนี้ใช้เชือกมาเป็นอุปกรณ์ในการโชว์เหมือนยกมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้มาไว้บนเวทีเลยทีเดียว ความสนุกยังคงดำเนินต่อไปด้วยโชว์ในเพลง Top The World

ทั้งยุนโฮและชางมิน พักทักทาย เหล่าแคสสิโอเปียด้วยภาษาไทยสั้น ๆ ก่อนว่า “สวัสดีครับ พวกเราดงบังชินกิ ยุนโฮ บอกไม่เจอกันนานเลย และขอบคุณที่มาเจอกันในวันนี้ และขอให้ทุกคนพร้อมสนุกไปด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ เสียงกรี๊ดของแคสสิโอเปียแทนคำตอบว่าอยู่จนจบชัวร์

หลังจากนั้นพวกเขาเริ่มโชว์ต่อไปกับเพลง The Way U Are ซึ่งเป็นเพลงที่คุ้นเคยจากอัลบั้มแรกของพวกเขาคือ TRI-ANGLE ต่อเนื่องกันต่อ เมื่อดนตรีน่ารัก ๆ จากเพลง Love Line จากอัลบั้มล่าสุด New Chapter #1 : The Chance of Love ก็ดังขึ้น ไม่เคยวาดภาพไว้เลยว่าเพลงจังหวะกลาง ๆ แบบนี้ จะดีไซน์การเต้นอย่างไร กลายเป็นว่าไลน์เต้นสวยและชัดมาก มีแดนเซอร์มาเติมพื้นที่ให้พวกเขาทั้ง 2 ดูโดดเด่นขึ้นไปอีก ทั้งยุนโฮและชางมิน เริ่มเดินไปที่สเตจย่อยด้านหน้า แคสสิโอเปียด้านหลังสุด กรี๊ดต้อนรับความใกล้ชิดที่ดงบังชินกิจัดให้

ในโชว์ถัดไปถือว่ากระชากอารมณ์มากจากจังหวะสนุก ๆ เปลี่ยนมาโหมดเพลงช้าซึ้งกับเพลง Sun & Rain ชอบอินเนอร์ของดงบังชินกิในโชว์นี้ แสง สี เสียงบนเวทียังคงจัดเต็ม

บนเวทีฉาย VTR ในลุกแบดบอยสุดคูล ดวงตาที่มีเสน่ห์ของชางมิน และสันกรามที่โดดเด่นของยุนโฮ กำลังทำให้แคสสิโอเปียละลาย หลังจากนั้นพวกเขากลับขึ้นมาบนเวทีพร้อมโชว์เพลง Puzzle ซึ่งเป็นเพลงโซโล่ของยุนโฮ ตรงนี้เราอยากจะการันตีว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เอวพลิ้วระดับเทพ เหงื่อที่ท่วมตัวยุนโฮอยู่ยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่ขึ้น

ตามมาด้วยโชว์ในเพลง The Chance Of Love ที่ใครหลายคนรอ ชอบการเต้นที่เป็นทีมเวิร์ก และที่ต้องขนลุกคือ เสียงแฟนชานท์จากแคสสิโอเปีย ที่ดังกระหึ่มพร้อมกัน และดูเหมือนจะดังไปจนถึงกลุ่มดาวซีกฟ้าฝั่งเหนือ ตามชื่อของพวกเขานั่นละ ! ขนลุก

ดงบังชินกิ กับประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาแกร่งมากบนเวที การเต้นอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย การร้องที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทำให้แคสสิโอเปียต่างเทใจให้จนถึงวันนี้ แล้วทั้ง 2 คน ก็ร่ายมนตร์ต่อกับเพลง Spellbound

ร่ายมนตร์เสร็จแล้วก็ยังคงต่อด้วยความสนุกในจังหวะกลาง ๆ จากเพลง Broken การเต้นของทั้ง 2 คนแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว การเคลื่อนไหวร่างกายที่มีระเบียบ พลิ้วไหว ดึงดูดสายตาได้เสมอ เป็นคอนเสิร์ตที่สนุกจนลุกไปไหนไม่ได้ เพราะไม่อยากพลาดสักโมเมนต์ !!!

พวกเขายังโชว์อย่างต่อเนื่องด้วยเพลง Before U Go เพลง Lazybones  และเพลง I Believe ไฮไลต์อีกอย่างของคอนเสิร์ตครั้งนี้ที่เหล่าแคสสิโอเปียจับตาคือ สเตจโซโล่ของชางมินในเพลง  Closer แสง สี บนเวทีสอดรับกับโชว์ของชางมิน โดยเน้นไปที่แสงสีแดง แคสสิโอเปียไม่รู้เลยว่าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าพวกเขาอาจจะต้องแดดิ้นอยู่ตรงนั้น เพราะชางมินถอดเสื้อเผยให้เห็นซิกซ์แพ็ก เสียงกรี๊ดมีเท่าไหร่ส่งไปให้ชางมินทั้งหมด

โตแล้วจะโชว์อะไรก็ได้ นี่คิดแทนชางมิน !!!

จากนั้นพวกเขาก็โชว์สเต็ปทรงพลังในเพลง  Vertigo และ MIROTIC ถึงตอนนี้สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือ เหล่าแคสสิโอเปียที่ช่วยกันร้องเพลงดังกระหึ่ม

ทั้งยุนโฮและชางมิน จะคอยถามแคสสิโอเปียเสมอว่า “สนุกไหมครับ” พวกเขาบอกความรู้สึกว่า สนุกมากกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ และขอโทษอีกครั้งที่ปล่อยให้รอนาน อยู่ดี ๆ ยุนโฮก็สร้างความมั่นใจให้ตัวเองด้วยการบอกว่า แม้พวกเขาจะมีอายุมากขึ้น แต่ทุกคนก็ยังหลงใหลในเสน่ห์ของพวกเขาใช่หรือไม่ เสียงกรี๊ดจากแคสสิโอเปียคือคำตอบ

ชางมินพูดถึงเหงื่อมหาศาลของยุนโฮว่า “ปกติพี่ยุนโฮไม่ได้เป็นคนเหงื่อมากขนาดนี้ คงเป็นเพราะความรักที่อบอุ่นของทุกคนนั่นเอง” ยุนโฮเสริมว่า ผมรักแฟนคลับทุกคนในทุกประเทศ แต่สำหรับที่ไทยมันจะมีความพิเศษอยู่ อย่างที่บอกตอนนี้พวกเราเองก็แก่กันแล้ว  เราไม่ได้แก่อย่างเดียว แต่เราก็เท่ขึ้นเรื่อย ๆ และที่พวกเรายังดูเท่อยู่แบบนี้ก็เป็นเพราะความรักจากทุกคนที่ทำให้พวกเราต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น” ชางมินยังคงหยอดหวานใส่แคสสิโอเปียอีกว่า “พวกเรารู้สึกดีมากที่ได้กลับมาเห็นรอยยิ้มที่สวยงามของทุกคนอีก พวกเรามีความสุขมาก และขอบคุณอีกครั้งครับ”

ของมันต้องมี…สำหรับความฮาจากดงบังชินกิ VTR บนเวทีฉายความน่ารัก เมื่อชางมินและยุนโฮ ลุกขึ้นมา “ติ่งตัวเอง” ด้วยการแต่งตัว Cover ตามเพลงฮิตของพวกเขาในอดีต ตั้งแต่อัลบั้มแรกคือ Hug, Mirotic, Balloons, Rising Sun  และ O Jang Ban Hab เป็น VTR ที่อยากให้คะแนนเต็ม 10 เพราะเรียกรอยยิ้มได้ทั้งฮอลล์

พวกเขากลับขึ้นเวทีอีกครั้งด้วยโชว์ 4 เพลงรวด คือ เพลง Wake Me Up เพลง Hug เพลง Balloons และเพลง Dream และแล้วก็ถึงการเซอร์วิสเหล่าแคสสิโอเปีย เขาทั้ง 2 คนขึ้นรถวนรอบอิมแพ็ค พร้อมของขวัญเป็นลูกบอลโยนให้แคสสิโอเปีย เช่นเดียวกันแคสสิโอเปียก็มอบของขวัญให้เช่นกัน ด้วยโปรเจ็กต์ ลูกโป่งสีแดงที่ปกคลุมอิมแพ็ค ถือเป็นปรากฏการณ์ Red Ocean” หรือมหาสมุทรแห่งแท่งไฟสีแดง สีประจำวงดงบังชินกิ ที่น่าจดจำ

จากนั้นจัดเต็มความสนุกด้วยด้วยโชว์แบบเมดเลย์ เพื่อให้แดนซ์กันเต็มที่ตั้งแต่เพลง Maximum+B.U.T และเพลง Keep Your Head Down ยิ่งสนุกเท่าไหร่ ก็ยิ่งห่วงความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นเมื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้เดินทางมาถึงในช่วงท้าย แต่กลับมีประเด็นให้ฮา เมื่อตามสคริปต์แล้วจะต้องร้องเพลงต่อไปอีก 1 เพลง แต่ยุนโฮบอกว่า  ขอพักสักครู่ครับ เพราะเกิดอาการตะคริวบนเวที ก็ร้องเต็ม เต้นเต็มตลอด แต่เหล่าแคสสิโอเปียก็ฮาลั่นอิมแพ็ค จนลืมห่วงยุนโฮ !!!

หลังจากโชว์เพลง Rising Sun ที่ชางมินบอกว่าเป็นเพลงสุดท้ายของคอนเสิร์ตในวันนี้จบลง เหล่าแคสสิโอเปียยังคงปักหลักร้องเรียกดงบังชินกิต่อเนื่อง ซึ่งชางมินย้ำบอกไว้ว่า ถ้าเสียงไม่ดังพอ ก็คงไม่มีอังกอร์ ช่วงท้ายคอนเสิร์ตของจริงก็มา เมื่อพวกเขากลับขึ้นเวทีพร้อมด้วย 3 เพลงสนุก ๆ อย่างเพลง Hi ya ya Soummer day เพลง  Somebody to Love และเพลง You’re My Melody ได้ยินเสียงยุนโฮ ตีเนียนบอกว่า “ผมรักคุณ”

แคสสิโอเปียก็ไม่น้อยหน้า ส่งโปรเจ็กต์บอกความรู้สึกไปถึงดงบังชินกิตรงหน้าว่า “ฉันยังรักคุณเหมือนวันแรกที่เราเจอกัน”

ทั้งยุนโฮและชางมินก็สัญญาว่าจะกลับมาเมืองไทยให้บ่อยขึ้น พวกเขาโค้งคำนับสุดตัว ตอบแทนความรักที่ได้รับมาในวันนี้ เมื่อย้อนกลับไปถึงชื่อคอนเสิร์ตของดงบังชินกิครั้งนี้ ที่ยุนโฮและชางมินให้คำจำกัดความไว้ว่า CIRCLE คือ วงกลมที่ไม่มีจุดสิ้นสุด

เหมือนกับความรัก รวมถึงการสร้างความทรงจำที่ดีที่มีให้กัน ระหว่างแคสสิโอเปียและดงบังชินกิตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมานั่นเอง…!!!