5 ไอดอลบนเวที iMe K-Pop Fantival 2017 และการรอคอยที่คุ้มค่าของ “อินเนอร์เซอร์เคิล”

คอลัมน์ เม้าท์โซลแตก

โดย W.K.언니 ([email protected])

คุยกับ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอเอ็มอี โปรดักส์ชั่น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ไอมี่ ไทยแลนด์ (iMe) “ไอรินรัช นันทชัยพร” ไปเมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา  เธอบอกว่าจะมีโปรเจกต์ใหญ่ที่นำไอดอล ต่างค่ายมาอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตเดียวกัน  แค่ได้ยินชื่อแต่ละวง คิดว่าท่าจะยาก แต่แล้วในที่สุดโปรเจกต์นี้ก็เกิดขึ้นจริง ไอมี่นำ5 ไอดอล คือ เฮลโล (HALO)  คาร์ด (K.A.R.D.) เคเอ็นเค หรือ คือนาคึ่น (KNK) บีวันเอโฟว์ (B1A4 ) และวินเนอร์ (WINNER) มาจัดเต็มความสนุกให้แฟนคลับชาวไทยเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

เปิดฉากด้วยบอยแบนด์น้องใหม่ เฮลโล กับโชว์แรกในเพลง Hear Hear ในจังหวะสนุกๆ เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับแทนการต้อนรับดังสนั่น  พวกเขาต่อเนื่องกับเพลง Come On Now หลังจากนั้นพวกเขาก็ทักทายแฟนคลับเป็นภาษาไทยด้วยคำว่า “สวัสดีครับ” พร้อมกับแนะนำตัวแต่ละคน คือ จองยองฮุน,โจซองโฮ, ลีอินแฮง, แจยอง, คิมฮีชอน และ คิมยุนดง พวกเขาออกปากถึงอากาศเมืองไทนยที่ค่อนข้างร้อน ก่อนหน้านี้เฮลโลเคยมาเมืองไทยเมื่อช่วงปีก่อน เมื่อเห็นว่าแฟนคลับมากันมากทำให้พวกเขาดีใจ พวกเขาต่อเนื่องความสนุกต่อแบบรัวๆ ด้วยเพลง Feel So Good เพลง While You’re Sleeping รวมถึงเพลง I’m Scared

เฮลโล ไม่ได้จัดเต็มเฉพาะเพลงจากพวกเขาเท่านั้น มาทั้งที่ต้องมีความพิเศษด้วยเพลงภาษาไทย คือเพลง “ไม่มีใครรู้” ของ “เป็ก ผลิตโชค” ที่ขึ้นชื่อว่าร้องตามยากมาก แต่พวกเขาก็ทำได้ดี แฟนคลับช่วยร้องอย่างอบอุ่น หลังจากนั้นเฮลโลก็ส่งท้ายเวทีด้วยโชว์แบบเปอร์ฟอร์แมนซ์ไม่มีตกในเพลง Fever อย่างน่าจดจำ

เมื่อเพลง Hola Hola ในจังหวะสนุกๆ ดังนั้น แฟนคลับกรี๊ดต้อนรับวง คาร์ด (K.A.R.D) วงน้องใหม่ ที่เดบิวต์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการรวมตัวของไอดอลหญิง 2 ชาย 2 ซึ่งการรวมตัวแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นในวงการเคป็อปเท่าไหร่ คือ  B.M.  J.Seph  Somin  และ Jiwoo นับเป็นการผสมผสานความอ่อนหวานของผู้หญิง และความเข็มแข็งของแรปเปอร์ไลน์ ได้อย่างลงตัว หลังจากที่พวกเขาทักทายแฟนคลับแล้ว ก็บอกเล่าความรู้สึกในวันนี้ว่า  “ดีใจที่ทุกคนมากันเยอะในวันนี้ และพวกเราตั้งใจมาโชว์วันนี้ให้เต็มที่ เอนเนอร์จี้ในฮอลล์ วันนี้สุดยอดมาก” พวกเขาเริ่มโชว์ต่อไปเพลงที่เต็มไปด้วยความสนุก อย่างเช่น เพลง  RUMOR และเพลง I Can’t stop

ความสนุกยังคงต่อเนื่องในเพลง Don’t Recall และต่อด้วยเพลง Side To Side พวกเขาบอกอีกว่า การตอบรับที่ดีจากแฟนคลับมันรู้สึกสุดยอดมาก และในช่วงสุดท้ายเป็นโชว์ในเพลง Oh Na Na  ที่แฟนคลับร้องตามได้อย่างน่าทึ่งมาก

แสงในฮอล์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม เพื่อต้อนรับการมาของ 5 หนุ่ม จาก วงเคเอ็นเค (KNK) หรือ คือนาคึ่น คือ  พัคซึงจุน,โอฮีจุน,ชองอินซอง และคิมยูจิน  ด้วยลุคสุดเนี๊ยบดูแพง โดดเด่นด้วยหน้าตาและความสูงที่เฉลี่ยเกิน 170 เซนติเมตรทุกคน พวกเขาเริ่มโชว์ในเพลง Knock เสียงกรี๊ดจากแฟนคลับให้เคเอ็นเคก็กระหึ่มไม่แพ้ใคร โชว์ถัดมาคือเพลง Back Again  เปอร์ฟอร์แมนซ์ของพวกเขา ดีงามสมคำล่ำลือ เคเอ็นเค พักโชว์มาพูดคุยกับแฟนคลับ พวกเขาบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาเมืองไทย  พร้อมทั้งโชว์สกิลเป็นภาษาไทยได้น่ารักทุกคน และยังมีการพูดถึงเมนูอาหารไทยที่ถูกปากถูกใจ เช่น สาหร่าย น้ำแตงโมปั่น รวมถึงโรตีสายไหม หนุ่มๆ ทั้ง 5 คน ยังเดินมาเรียกเสียงกรี๊ดที่สเตจด้านหน้าเพื่อให้ใกล้ชิดกับแฟนๆ ให้มากที่สุด

จากนั้นพวกเขาเริ่มโชว์เด็ดๆ อีกในเพลง Angel Heart และเพลงที่พวกเขาเต็มที่เพื่อโชวฺให้แฟนๆ ได้ชมกับเพลง Thinking Out Loud ทั้ง 5 หนุ่มเตรียมสกิลด้านภาษาไทยมาเป็นอย่างดีเพื่อเรียกเสียงกรี๊ดต่อเนื่องจาก ทิงเกอร์เบล (ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) กับคำว่า “ทิงเกอร์เบลรักนะครับ”  “ทิงเกอร์เบลมุ้งมิ้งมาก รักนะจุ๊บๆ” พวกเขายังเปรยๆ ว่า มาไทยครั้งนี้อยากจะลองอาหารไทยอย่าง “ต้มยำกุ้ง” สักครั้งด้วย พอหอมปากหอมคอแล้วทั้ง 5 หนุ่ม เคเอ็นเค ก็โชว์ต่อด้วยเพลง Sun Moon Star” รวมถึงเพลงใหม่ล่าสุดเพลง Rain  ซึ่งเสน่ห์ของเพลงนี้อยู่ที่เสียงแซกโซโฟน ยิ่งปนกับเสียงร้องของเคเอ็นเคแล้ว ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติก พวกเขาบอกว่า “คอนเสิร์ตในวันนี้ทำให้พวกเขาได้รับพลังงานที่ดีมากจากแฟนคลับและขอบคุณที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น” และพวกเขายังสัญญาว่าจะเป็นศิลปินที่ดีต่อไป และเคเอ็นเคก็บอกลาด้วยเพลง U ที่พวกเขาจะจดจำไปอีกนาน…

มาถึงช่วงที่บาน่า (ชื่อแฟนคลับวงบีวันเอโฟว์) จะได้กรี๊ดกันสุดเสียงสมกับที่รอคอยมานานกว่า 4 ปี เพื่อต้อนรับวง บีวันเอโฟว์ พวกเขาทั้ง 5 คน คือ จองจินยอง,ลีจองฮวาน,ชาซอนอู,กงชานชิค และชินดงอู ที่เริ่มโชว์ด้วยเพลง What’s Goimg On เพื่อเยียวยาความคิดถึงสุดพลังให้กับเหล่าบาน่าไทย ต่อเนื่องกับโชว์น่ารักในเพลง Solo Day มุ้งมิ้งขั้นสุดสำหรับโชว์นี้ ให้คะแนนความปากหวานสำหรับวงบีวันเอโฟว์ พวกเขาเปิดฉากทักทายบาน่าไทยว่า “ไม่ได้เจอกันนาน สวยขึ้นนะครับ ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงกันไหมครับ” เสียงกรี๊ดมีเท่าไหร่ บาน่าไทยจัดให้หมด

พวกเขาบอกถึงความรู้สึกว่า 4ปีที่ไม่ได้เจอกัน  ค่อนข้างกังวลว่าแฟนคลับจะยังคงจำพวกเราได้หรือไม่ แต่เมื่อได้เห็นว่าแฟนคลับมาต้อนรับที่สนามบินเยอะมาก ก็รู้สึกได้ทันทีว่า “บาน่าไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงจริงๆ”  จากนั้นพวกเขาก็เริ่มสร้างความทรงจำร่วมกับบาน่า ด้วยโชว์ในเพลง A Lie เพลง Lonely ทั่วทั้งฮอลล์ปั่นป่วนไปด้วยความสนุก พวกเขายังโชว์ต่อเนื่องอีกในเพลง Baby Goodnight และบีวันเอโฟว์ก็ส่งท้ายความสนุกครั้งนี้ด้วยเพลง Good Timing

และ ไฮไลต์ สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็มาถึงกับโชว์สุดพลังจากวงวินเนอร์  เสียงกรี๊ดสนั่นต้อนรับ 4 หนุ่ม คือ คังซึงยูน,ซึงฮุน,จินอู และมิโน ในเพลง Empty เหล่าอินเนอร์เซอร์เคิล (ชื่อแฟนคลับเป็นทางการของวินเนอร์) ฟินสุด พวกเขาร่วมร้องเพลงนี้ดังสนั่นฮอลล์ การรอคอยและความคิดถึงของเหล่าอินเนอร์เซอร์เคิลทรงพลังมาก  ได้เห็นคาริสม่าเฉพาะตัวของพวกเขา สะกดสายตาไปกับโชว์คุณภาพเสียงร้อง โดยเฉพาะแรปไลน์คือ มิโน และซึงฮุน ที่มีสไตล์เฉพาะตัว ธันเดอร์โดมระส่ำไปกับโชว์ของวินเนอร์จริงๆ พวกเขาต่อเนื่องกับเพลง Fool เหล่าอินเนอร์ เซอร์เคิลหลงไปกับเสียงหลบทรงพลังของซึงยูน และยังช่วยกันร้องจนชวนให้ขนลุก

ทั้ง 4 หนุ่มทักทายเป็นภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ พวกเราวินเนอร์” มิโน ดูจะเตรียมตัวมาดีสำหรับภาษาไทย ทักทายด้วยคำว่า “ดีใจที่ได้เจอกันนะครับ” มิโนที่ดูจะคุมเวทีอยู่ดีๆ ก็ถูกแย่งซีนด้วยซึงยูน กับสกิลภาษาไทยที่ว่า “พี่มาแล้วจ๊ะ” ธันเดอร์โดมระส่ำด้วยเสียงกรี๊ดอีกรอบ ยังไม่จบ ซึงฮุน แย่งซีนต่อด้วยการทักทายว่า “ อินเนอร์ฯ ไทย สวยมากๆ ครับ ทางนั้นก็สวย ทางนี้ ทางโน้นก็สวย”  ชมไปเรื่อยจนมาถึงจินอู ก็ชมจินอู ว่าสวยไปอีก งานจิ้นก็มา  ด้านจินอู ทักทายบ้างว่า “สวัสดีครับ จินอู คนหล่อครับ และจะมาเมืองไทยบ่อยๆ ”

“เราต่างฝ่าย ต่างก็รอมานาน และวันนี้เราได้เจอกันแล้วนะครับ”  มิโนพูดขึ้นจนทั่วทั้งฮอล์เงียบ พวกเขาบอกว่า หวังว่าอินเนอร์ฯไทย จะชอบเพลงของพวกเรา และพวกเขาก็อยากกลับมาที่เมืองไทยอีก หลังจากนั้นพวกเขาก็จัดเต็มความสนุกต่อเนื่องด้วยเพลง Love me Love me เพลงนี้สนุกมากทั่วทั้งฮอลล์เต็มไปด้วยแท่งไฟสีน้ำเงิน ที่สำคัญไม่มีท่อนไหน หรือแฟนชานท์ใดๆ ก็ตาม อินเนอร์เซอร์เคิลจัดเต็ม ไม่มีพลาด และพร้อมเพรียง

คุ้มค่ากับการรอคอยมากว่า 4 ปี !!

จากนั้นวินเนอร์จัดเต็มความสนุกด้วยเพลง Island  และความสุข มักผ่านไปเร็วเสมอ เมื่อวินเนอร์บอกว่าพวกเราต้องโชว์เพลงสุดท้ายแล้วกับ Really Really  และพวกเขาก็โชว์ปิดคอนเสิร์ต iMe K-Pop Fantival 2017 ได้อย่างเพอร์เฟค และน่าจดจำไปอีกนาน…