วอนนาวัน : วอนนาเบิลไทย รวมกันเป็นหนึ่ง สนุกสุดฟินในแฟนมีตติ้งครั้งแรก

คอลัมน์ เม้าท์โซลเเตก

โดย W.K.언니 ([email protected])

 

อยากจะพูดแทนโบอา ในฐานะประธานโปรดิวเซอร์แห่งชาติว่า “It Show Time” เมื่อเห็นผู้ชนะทั้ง 11 คน จากรายการเซอร์ไวเวอร์ โปรดิวซ์ 101 ซีซั่น 2 อยู่บนเวที พร้อมกับเริ่มโชว์เพลงแรก Pick Me คือ คังแดเนียล พัคจีฮุน อีแดฮวี คิมแจฮวาน องซองอู พัคอูจิน ไลควานลิน ยุนจีซอง ฮวังมินฮยอง แพจินยอง และฮาซองอุน ในงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกของพวกเขาในไทย กับ “วอนนาวัน เฟิร์ส แฟน มีตติ้ง อิน แบงคอก : วอนนา บี เลิฟ” (WANNA ONE 1st Fan Meeting in Bangkok : WANNA Be Loved)  โดยผู้จัด โฟว์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

โชว์ของพวกเขาเหมือนยกรายการโปรดิวซ์ 101 มาไว้ที่นี่เลยทีเดียว ทุกคนเต็มที่กับโชว์แรก เสียงกรี๊ดของเหล่า วอนนาเบิล (Wannable) ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการของวอนนาวัน กระหึ่มทั่วฮอล 106 ไบเทค บางนา เพื่อต้อนรับไอดอลของพวกเขา ทั้ง 11 คนแนะนำตัวอย่างพร้อมเพรียง เป็นภาพที่คุ้นตาหลังจากที่เริ่มเดบิวต์ด้วยมินิอัลบั้ม To Be One ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเพลงก็ขึ้นชาร์ตหลัก ๆ ไปเรียบร้อย และยังคงฮอตฮิตต่อเนื่อง

หลังจากนั้นก็เริ่มต้นแฟนมีตติ้งอย่างเป็นทางการ ทั้งวอนนาวันและวอนนาเบิลกำลังร่วมสร้างความทรงจำดี ๆ ที่จะเต็มไปด้วยความสนุก และได้ทำความรู้จักกับพวกเขาทั้ง 11 คนมากขึ้น บนเวทีถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงเรียนเพื่อฝึกวอนนาวัน ทุกคนนั่งประจำที่บนโต๊ะแลกเชอร์ เพื่อเริ่มคลาส “วิชาภาษาไทย” โดยพิธีกรเริ่มสอนคำว่า “วอนนาเบิลไทย สวยมาก ๆ” เอ็นดูความพยายามของทุกคน แม้จะเพี้ยน ๆ ไปบ้างเป็นคำว่า ซวย จึงต้องอธิบายถึงความหมายให้ฟัง

องซองอู ที่ขยับตัวทำอะไรทีก็มักจะได้เสียงกรี๊ด เช่น การถอดสูท พิธีกรเลยชงให้ลุกขึ้นมาพูดภาษาไทยเดี่ยว ๆ ว่า  “นั่งตรงนั้นไกลไปไหม มานั่งในใจผมดีกว่า” เพื่อสื่อสารกับวอนนาเบิลด้านหลังสุดของฮอล เมื่อแปลความหมายให้ฟัง ซองอู ถึงกับกวักมือเรียกวอนนาเบิลให้มานั่งในใจอย่างน่ารัก ๆ

แชมป์อย่างคังแดเนียล ที่ได้ยอดโหวตสูงสุดกว่า 800,000 คะแนนจากผู้ชมรายการโปรดิวซ์ 101 ทั่วประเทศ ออกตัวว่า เตรียมความในใจที่อยากพูดเป็นภาษาไทยมาให้วอนนาเบิลด้วย ซึ่งกลายเป็นภารกิจที่วอนนาวันจะต้องช่วยกัน พูคความในใจทีละคน ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทยแล้วคือ “พวกเราวอนนาวันครับ  วันนี้เป็นแฟนมีตติ้งครั้งแรกในชีวิต ตื่นเต้นสุด ๆ มีความสุขมาก ๆ  ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้จะไม่ลืมวันนี้เลย รักไทยวอนนาเบิลครับ” ตบท้ายพร้อมกันด้วยคำว่ารักนะจุ๊บ ๆ คำไม่กี่คำแต่เชื่อมั่นว่า จะทำให้วอนนาเบิลจดจำไปตลอด และสำหรับคลาสวิชาภาษาไทยวอนนาเบิลบอกว่า วอนนาวัน สอบผ่าน !

ถัดมาคือคลาส วิชาศิลปะ พวกเขาต้องวาดภาพของเมมเบอร์ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของตัวเอง ภายใน 3 นาที และภาพที่วาดเสร็จแล้วจะกลายเป็นของขวัญพิเศษให้กับวอนนาเบิลไทยที่โชคดี นาทีนี้อิจฉาแรงส์ เพราะเป็นภาพเดียวในโลกที่วาดโดยวอนนาวัน แต่ที่เรียกเสียงฮาคือ อีแดฮวี ที่พยายามวาดรูปแพจินยอง แต่เมื่อวาดเสร็จกลายเป็นว่าเหมือนพิธีกร (ดีเจ.นุ้ย) มากกว่าที่จะเป็นแบจินยอง คลาสศิลปะว่าฟินแล้วมาต่อกันด้วย คลาสแดนซ์ แบบสุ่มเพลงเต้น ไม่น่าเป็นห่วงสำหรับคลาสนี้ ทีมงานจัดเพลงเกาหลีเช่น กังนัมสไตล์ของ ไซ (Psy) คังแดเนียล ดูจะถนัดเพลงนี้มาก ตามมาด้วยเพลง Cheer Up ของทไวซ์ (Twice)  เต้นได้แค่เพลงเกาหลีมันดูธรรมดาไป ทีมงานจัดเพลงไทยสายตึ๊ดมาเรียกเสียงฮาจากวอนนาเบิล กับเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร (เพลงของหญิงลี ศรีจุมพล)

ต่อด้วยเพลง Sorry Sorry ของวงรุ่นพี่ ซุเปอร์จูเนียร์ วอนนาเบิลไทยร้องตามอย่างดัง แต่ดูเหมือนว่าสเต็ปในเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรจะน้อยไป พิธีกรจัดซ้ำให้อีกรอบ พร้อมทั้งเป็นตัวนำสอนเต้นเพลงนี้ให้เอง ซึ่งทั้ง 11 คนเรียนรู้เร็วมากสมกับเป็นไอดอล โดยเฉพาะ อีแดฮวี อินเนอร์เจิดจรัสมาก

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งหมดโชว์ในเพลง  Hand On Me วอนนาเบิลร้องตามดังสุดเสียง อีกนิดอาจจะแย่งไมค์ไอดอลมาร้องได้ ต่อด้วยเพลง Burn It Up และหลังจากนั้นจอบนเทวีฉายภาพเบื้องหลังการทำงานของพวกเขา ภายใต้ค่ายวายเอ็มซี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ และเพลงที่รอคอยที่จะดูโชว์ก็มาคือเพลง  Wanna Be (My Baby) สนุก ใส ๆ

พลังของทั้งวอนนาวัน และวอนนาเบิล ยังไม่อ่อนลงไปเลย เข้ามาสู่ช่วงพูดคุยกับพวกเขาทั้ง 11 คน เพื่อให้รู้จักกันมากขึ้น แต่แล้วก็พบว่า ลีดเดอร์ของวงอย่าง ยุนจีซอง หายไปจากเวที และเขาปรากฏตัวพร้อมกับเค้กที่วอนนาเบิลไทยจัดให้กับ ไลควานลิน ซึ่งวันนี้เป็นวันเกิดของเขา ในฐานะน้องเล็กของวงดูฟินที่สุดในนาทีนี้ และยังมีของขวัญเซอร์ไพรส์ให้อีกเป็นพระพิฆเนศ ซึ่งไลควานลินใส่ทันที มีความเห่อ เขาบอกว่า ขอบคุณมากๆ ครับ เมมบอร์ทุกคนอวยพรให้ไลควานลินอีกครั้ง รวมถึงวอนนาเบิลไทยด้วย

เป็นไปไม่ได้ที่วอนนาเบิลไทยจะเซอร์ไพรส์แค่นั้น แน่นอนมาครั้งแรกทั้งทีต้องมีโปรเจ็กต์ซึ้ง ๆ มาแน่นอน ตั้งแต่คลิปซึ้ง ๆ และข้อความป้ายกระดาษที่บอกว่า “เราจะอยู่เคียงข้าง Wanna One เสมอ” เรียกได้ว่าซึ้งถึงขีดสุด พวกเขากล่าวขอบคุณแฟน ๆ ทุกคน

โหมดซึ้งกันไปแล้ว มาสู่ช่วงพูดคุยอีกครั้ง ทีมงานนำบอร์ดที่เต็มไปด้วยคำถามจากวอนนาเบิลไทย ระหว่างทางคำถามร่วงหล่นเป็นทางไลควานลิน น้องเล็กเดินไปเก็บและติดไว้ที่บอร์ดให้เหมือนเดิม มาที่คำถามแรกซึ่งวอนนาวันดูพิถีพิถันในการเลือกมาก และคำถามแรก ถามคิมจีฮุน ว่า ช่วยวิงก์ตาทั้ง 2 ข้างให้ดูหน่อยได้หรือไม่ ซึ่งจีฮุนบอกว่า วิงก์ของเขามี 2 แบบคือ วิงก์แบบเซ็กซี่ และน่ารัก และการวิงก์แต่ละครั้งเรียกเสียงกรี๊ดอย่างถล่มทลาย ฮอล 106 กลายเป็นสีชมพูเลยทีเดียว

คำถามถัดมาคือ ถาม อีแดฮวี ว่า ใช้เวลาในการอาบน้ำนานใช่หรือไม่ อีแดฮวีตอบกลับอย่างไว ผมเป็นคนอาบน้ำเร็วนะครับ และยังเล่าว่าก่อนอาบน้ำจะต้องเป่ายิ้งฉุบ แล้วเขาเองก็แพ้เพื่อนตลอดเลยต้องอาบน้ำทีหลัง และยืนยันว่า อาบน้ำเร็วครับ

ถัดมาถามว่า แต่ละคนชอบกินอาหารไทยอะไรมากที่สุด มินฮยอนบอกว่า เขาชอบกินผัดไทย ด้านฮาซองอุนบอกว่า ชอบผลไม้อย่างมังคุดมาก พอรู้ว่าเรียกมังคุดก็ออกเสียงอ๋อยาวเชียว ถัดมาแพจินยองบอกว่าชอบ “ข้าวผัด” วอนนาเบิลทั้งฮอลออกตัวทันทีว่าทำข้าวผัดอร่อยกันทุกคน และต่อไปเป็นการแจกเสื้อพร้อมลายเซ็นของทั้ง 11 คน โดยสุ่มจากบัตรที่นั่ง ทุกคนตั้งใจเซ็นเสื้อมาก เซ็นแบบเล่นใหญ่ แทบจะเต็มทั้งเสื้อก็มี…

เมื่อช่วงสุดท้ายมาถึง ยุนจีซอง บอกว่าวันนี้ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคน พวกเขามีความสุขมาก ๆ และจะพยายามกลับมาหาแฟนไทยอีกครั้ง ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่น ๆ บอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มาเมืองไทยและประทับใจเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ มากเลย ขอบคุณเซอร์ไพรส์และความประทับใจ พวกเราจะเก็บความทรงจำนี้กลับไปเกาหลีด้วย  องซองอูหยอดคำหวานว่า อยากลงไปสบตาวอนนาเบิลไทยทุกคน ส่วนน้องเล็กอย่างไลควานลินบอกว่า “รักเมืองไทย นะครับ” ด้านวอนนาเบิลก็บอกความในใจพร้อมกันทั้งฮอลว่า “ซารางเฮโย วอนนาวัน”

ทั้งนี้การเดบิวต์ของพวกเขาภายใต้วงวอนนาวัน จะใช้เวลารวมในการทำกิจกรรมและโปรโมตต่าง ๆ รวม 1 ปี 6 เดือนเท่านั้น นึกภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อวันที่ทุกคนต้องแยกย้ายกลับต้นสังกัดจะเป็นอย่างไร แต่เท่าที่เห็นวันนี้คือ ทั้ง 11 คนวอนนาวันและวอนนาเบิลได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างน่าประทับใจ

วอนนาวันส่งท้ายด้วยโชว์ของพวกเขาในเพลง Energetic จอบนเวทีฉายภาพย้อนกลับไปตอนแข่งขันรายการโปรดิวซ์ 101 ที่มีทั้งความสนุก สุข เศร้าและมีน้ำตากว่าจะผ่านมาได้ของพวกเขาทั้ง 11 คน และปิดท้ายด้วยโชว์ที่มีความหมายดี ๆ ของการเคียงข้างกัน ไม่ว่าวอนนาวันจะอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม และมันจะเป็นอย่างนี้เสมอไป กับเพลง Always ที่วันนี้ทำหน้าที่แทนคำลาจากวอนนาวัน…