Atomic Blonde หนังสายลับ เท่ มีสไตล์ อย่าคาดหวังว่าจะเจอ “จอห์น วิค” ในเวอร์ชั่นผู้หญิง

ถ้าจะบอกว่าAtomic Blonde คือ “จอห์น วิค” เวอร์ชั่นผู้หญิงก็อาจจะถูกแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะหนังมีสไตล์เป็นของตัวเองสูง มีเส้นเรื่อง มีพล็อตชัดเจน ไม่ใช่บู๊เอาเป็นเอาตาย เดินหน้าฆ่าลูกเดียวแบบป๋าจอห์น เพียงแต่ว่าพอเป็นผู้กำกับคนเดียวกัน (David Leitch) แนวทางฉากแอ็คชั่น งานภาพ มู้ดโทน และดนตรีจึงได้รับอิทธิพลมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
หนังมาแนวสายลับอังกฤษในแบบ “เจสัน บอร์น” แต่เป็นเวอร์ชั่นที่โคตรเก๋ โคตรเปรี้ยว โฉบเฉี่ยว และหักเหลี่ยมเฉือนคมกันตลอด สร้างบรรยากาศการสืบสวน ปลอมตัว สับขาหลอก มีหนอนบ่อนไส้ จนคนดูไม่สามารถไว้ใจใครในหนังได้เลย โดยมีฉากหลังเป็นเมืองเบอร์ลินยุคสงครามเย็น จึงเปิดโอกาสให้ใส่เพลง ซาวด์ดนตรีในยุคปลาย 80 เท่ๆ ที่เข้ากับมู้ดหนังมาก
 
หรือแฟชั่นการแต่งตัวที่โดดเด่นของทุกๆ ตัวละคร โดยเฉพาะ ชาร์ลิซ เธอรอน ที่สวมบทเป็นสายลับที่เท่ เปรี้ยว โฉบเฉี่ยว เซ็กซี่แบบราคาแพง นอกจากหุ่นดี ความทะมัดทะแมงในซีนแอ็คชั่นที่ต้องบู๊บนส้นสูง ยังโชว์แฟชั่นคอสตูมที่แทบจะเปลี่ยนทุกฉาก มันสะดุด จัดจ้านจนละสายตาไม่ได้เลย แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่า คือ เจมส์ แม็คอะวอย ที่แสดงได้แย่งซีนสุดๆ
 
หน้าหนังและตัวอย่าง ทำให้คนคาดหวังหนังบู๊เดือดๆ แต่สัดส่วนฉากแอ็คชั่นในเรื่องนั้นไม่เยอะ แต่มาในช่วงเวลาที่เหมาะ และทำได้ดุเดือด คิวบู๊จังหวะดีมาก ก่อนจะมีซีนลองเทคโชว์ในช่วงท้ายที่เดือดและดีมาก ที่ชอบคือด้วยยุคสมัย ทำให้หนังไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ไฮเทค อย่างอุปกรณ์ดักฟังก็มาเป็นเทปเลย คลาสสิคสุดๆ ส่วนงานภาพ มุมกล้อง ยังมีเทคนิคภาพที่หวือหวาตามมาตรฐาน และส่งอารมณ์หนังได้ดี

Atomic Blonde อาจไม่ใช่หนังที่จะเปิดหัวโล่งๆ ดูซีนแอ็คชั่นคิวบู๊เท่ๆ เพราะหนังมีเส้นเรื่องที่หลอกคนดูไปมา และตัวละครเยอะ หลายฝ่าย ต้องตั้งใจดูพอสมควร บางฉากก็เล่าด้วยภาพที่ต้องอาศัยการตีความบ้าง แต่ไม่ถึงกับดูยาก
The Coldest City

 

โดยรวมอาจไม่ได้บู๊ล้างผลาญ ฆ่าเป็นร้อยศพ แต่หนังมีการเล่าที่สนุก น่าติดตาม ถ้าใครชอบหนังสายลับ เรื่องนี้มีความสดใหม่ และสีสันฉูดฉาดแปลกไปจากเรื่องอื่นๆ มาก พร้อมกับแจ้งเกิดตัวแม่ดาวบู๊คนใหม่ของหนังแอ็คชั่นไปอีกคน มาลุ้นกันต่อว่าจะมีภาคต่อไปมั้ยกันเถอะ