
ออกตัวก่อนว่าส่วนตัวผู้เขียนค่อนข้างเป็นแฟนประจำหนังชุด SAW เป็นการส่วนตัว แต่ทว่าความชอบต่อภาค 4 เป็นต้นมา กลายเป็นกราฟต์ที่ดิ่งลงอย่างน่าถอนหายใจ เพราะจากที่หนังเคยมีนัยยะในเรื่องการสอนให้คนเรียนรู้จักคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ แม้จะเป็นเสี้ยวเล็กๆ ที่ผู้ชมพอจะได้นอกจากความบันเทิง แต่ทันทีที่ปิดไตรภาคแรกลง หนังก็ละทิ้งจิตวิญญาณตัวเอง มาเป็นหนังที่ขายฉากการตายแหวะๆ จากกับดักมรณะที่ไร้ทางรอด จนเป็นหนังที่ดูทีไรก็ชวนเป็นลมแทน แถมเสน่ห์การหักมุมที่เคยเฉียบคม ก็ออกทะเลไปเรื่อยๆ
จนการมาถึงภาคที่ 8 ผู้เขียนเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าหนังจะต้องทำได้ถึงระดับ 3 ภาคแรก แค่ทำให้ออกมาสนุกก็น่าจะโอเค ซึ่งใน Jigsaw มีบรรยากาศในการกึ่งๆ รีบูทพอสมควร แต่ก็คงไว้ด้วยกลิ่นอายเดิมๆ ในการเป็นหนังไล่ล่าสืบสวนสลับกับเกมมรณะ
ความน่าสนใจในภาคนี้ หนังดูจะเน้นความเข้มข้นในการสืบสวนมากขึ้น และปมการฟื้นคืีพของ “จิ๊กซอว์” หรือ “จอห์น เครเมอร์” ที่หลักฐานต่างๆ บ่งชี้ว่าเขากำลังกลับมาควบคุมเกมสุดโหดที่มีชีวิตผู้คนเป็นเดมิพันอีกครั้ง
จริงๆ หนังเปิดตัวมาได้ค่อนข้างน่าสนใจ มีจังหวะที่ดูกระชับฉับไว แต่สุดท้าย หนังก็กลับมาวังวนเดิมๆ คือตกม้าตายด้วยบทที่กลวงสุดๆ และการหักมุมที่เล่นใหญ่เข้าไปทุกที ดูไปก็ได้แต่สงสารเฟรนไชส์ Saw ที่เละเทะออกทะเลมาไกลเพียงนี้ หนังมาถึงภาค 8 ได้ ก็มาแบบสีข้างถลอก และอ่อนแรง เราเห็นการสืบสวน หักมุม และกับดักจากหนังชุดนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน สิ่งต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร
สิ่งที่ไม่ชอบในภาคนี้ หนังขาดพลัง และความซับซ้อนของเรื่องที่ไม่เฉียบคมอย่างที่เคยเป็น ความไฮเทคของตัวกับดักลดทอนความดิบและ “หวาดเสียว” ลงไปมาก ยิ่งในภาคก่อนๆ ตัวกับดักจะมีช่วงเวลาบีบหัวใจ ที่เล่นกับเวลาและการตัดสินใจของผู้เล่น ที่ทำคนดูมีอารมณ์ร่วมไปด้วย จนเป็นเสน่ห์ของหนัง ภาคนี้ถือว่าธรรมดามาก กับดักแต่ละชิ้นไม่ว้าวเลย
