โดย Too Hip To Retire
เป็นเพลงที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอออกมาให้ชมกันไม่นานมานี้ของ “โลจิก” (Logic) แร็พเปอร์หนุ่ม วัย 27 ปี กับผลงานอัลบั้มที่สาม ที่มีเพลงที่กลายเป็นกระแสเบาๆ แต่แอบทรงพลังในโลกดนตรี เมื่อเพลงที่ชื่อว่า “1-800-273-8255” ถูกชื่นชมในฐานะเป็นเพลงที่มีความมุ่งหวังช่วยเหลือคนคิดฆ่าตัวตาย โดยเพลงดังกล่าวมีที่มาของชื่อเพลงตัวเลข ซึ่งก็คือเบอร์โทรศัพท์ฮอตไลน์ “สายด่วน” ขององค์กรป้องกันการฆ่าตัวตายแห่งชาตินั่นเอง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
Everybody (Logic album)
พูดถึง “การฆ่าตัวตาย” เป็นประเด็นใหญ่ของสังคมสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่แค่ข่าวคราวโด่งดังที่มีการฆ่าตัวตายในแวดวงคนดนตรีเท่านั้น แต่ในสหรัฐสถิติการฆ่าตัวตายนั้นพุ่งพรวดในแต่ละปี โดยเฉพาะปัญหาการฆ่าตัวตายของ “วัยรุ่น” ที่อยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ
ใครได้ชมซีรีย์วัยรุ่นดังของอเมริกา 13 Reasons Why ของค่าย Netflix จะเข้าใจได้ทันทีถึงประเด็นการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นที่คนรอบตัวอาจจะไม่ทันได้นึกคิดว่า เราอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจลาจากโลกนี้ไป
และอันที่จริงประเด็นการฆ่าตัวตายของมนุษย์กำลังจะเป็นอีกหนึ่งวาระน่าห่วงเช่นกัน เพราะสถิติชี้ว่าประเทศใหญ่ๆที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เช่น จีน ที่มีสถิติฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น
ดังนั้นเพลงอย่าง “1-800-273-8255” จึงมาในท่วงทำนองเนื้อหาที่อ่านแล้วเข้าใจคนที่กำลังอยู่ในภวังค์ความหดหู่ สิ้นหวัง และอยากหายตัวไปจากโลกนี้
บทเพลงของ “โลจิก” ส่งสารถึงความสงบ ความรัก ให้กับคนที่กำลังหมดอาลัยตายอยากและกำลังสับสน
“คนส่วนมากไม่ได้สนใจจะฟังเพลงเนื้อหาแบบนี้” โลจิก บอกไว้ ท่ามกลางกระแสของเพลงฮิตมากมายบนชาร์ทเพลงสตรีมมิ่ง และบนหน้าปัดวิทยุที่ล้วนเต็มไปด้วยคลื่นถาโถมของเนื้อเพลงแนวยั่วยวน เพลงที่สะท้อนความมั่นใจในตัวเอง และเพลงที่พูดถึงโลกไนท์ไลฟ์ เป็นต้น
กับเพลง “1-800-273-8255” ในอัลบั้ม “Everybody” อัลบั้มที่สามของเขา ซึ่งตัวอัลบั้มปล่อยออกมาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และบรรดาเพลงในอัลบั้มนี้พูดถึง “ปัญหาของมนุษย์” และแน่นอนว่า ปัญหาในใจของ “โลจิก” ด้วยเช่นกัน อัลบั้มนี้ถือเป็นการปลดปล่อยและประนีประนอมให้กับอีกด้านของตัว “โลจิก” เอง ที่พยายามจะสร้างความสงบทางใจให้ตัวเขา ผ่านเพลงอย่าง “Take It Back” ที่พูดถึงชีวิตวัยเด็กของเขาที่มีพ่อเป็นคนผิวสี แม่เป็นคนผิวขาวที่ติดโคเคน แอลกอฮอล์ โดยเขาโตมาในย่านเสื่อมโทรม และถูกระบุว่าเป็นคนผิวสี แม้ว่าโดยรูปลักษณ์ของเขาจะเคยถูกคนเข้าใจทันทีที่เห็นว่าเป็นคนผิวขาว
และการมาถึงของเพลง “1-800-273-8255” ที่ใช้เบอร์โทรศัพท์สายด่วน เป็นชื่อเพลงนี้เขียนขึ้นมาจากมุมมองของ “ใครบางคน” ที่ต้องการความช่วยเหลือ และโทรศัพท์ไปยังสายด่วนคนคิดฆ่าตัวตายที่หวังจะได้รับคำตอบให้พวกเขา ผ่านท่อนคอรัสที่สะท้อนให้เห็นถึงความสับสน และคิดวนเวียนในหัว ที่ร้องว่า “I don’t wanna be alive” และ “I want you to be alive.”
“1-800-273-8255” ถูกกดสตรีมบนบริการฟังเพลงชื่อดัง Sportify กว่า 167 ล้านครั้ง และยอดวิว 46 ล้านวิว บนยูทูป ขณะเดียวกันเพิ่งจะมีเวอร์ชั่นมิวสิควิดีโอความยาว 7 นาที บนยูทูปออกมา โดยได้นักแสดง ดอน เชียเดิล มารับบทพ่อที่มีลูกชายวัยรุ่นเกย์ที่กำลังต่อสู้กับภาวะซึมเศร้า
ไม่นานมานี้แร็พเปอร์ “โลจิก” ขึ้นแสดงโชว์ร้องเพลงนี้ ในงาน เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิค อวอร์ด ซึ่งเขาร่วมฟีชเชอริ่งร้องเพลงนี้กับ Alessia Cara และ Khalid โดยสวมเสื้อยืดสีขาวที่สกรีนเบอร์โทรศัพท์สายด่วนนี้เหมือนเป็นการส่งสารถึงคนที่กำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้าที่มีโอกาสจะคิดฆ่าตัวตาย
และแน่นอนการแสดงครั้งนี้เป็นการรำลึก และทริบิวท์ถึงร็อกเกอร์ดังสองคนของโลกดนตรีที่เพิ่งตัดสินใจอัตวินิบาตกรรมไปทั้ง คริส คอร์แนล และ เชสเตอร์ เบนนิงตัน
ถามว่าเพลงนี้ มีผลอะไรขึ้นมากับสังคมหรือไม่?
องค์กรป้องกันการฆ่าตัวตายในสหรัฐ บอกว่า ตั้งแต่เพลง “1-800-273-8255”ปล่อยออกมา มีสายด่วนโทรปรึกษาปัญหาเพิ่มขึ้นถึง 33 เปอร์เซ็นต์
อย่างน้อยหากเบอร์ของสายด่วนนี้จะได้เผยแพร่ออกไปผ่านเพลง และปรากฎอยู่ชัดเจนในสถานะ “ชื่อเพลง” มันก็ได้สร้างความหวังเล็กๆในจิตใจของคนที่กำลังหดหู่หมดอาลัยตายอยากและที่สุด อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ยื่นมือช่วยเหลือชีวิตใครบางคนขึ้นมาก็ได้
