“ประคุณ พรประภา” หรือ เช้า วัย 25 ปี ทายาทหนุ่มคนสุดท้องของ “พรพินิจ พรประภา” แห่งสยามกลการ เป็นอีกหนึ่งนักธุรกิจที่น่าจับตามอง ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง GM แห่ง SMI Travel และ Wendy Tour ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ตอนนี้กำลังเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง กับธุรกิจกีฬา Crossfit
กีฬา Crossfit ถือเป็นของใหม่สำหรับเมืองไทย เพราะตอนนี้มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่เปิดให้คนได้เข้าไปฟิตฝึกพละกำลัง เพื่อบริหารส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้แข็งแรงกำยำ และที่สำคัญสามารถบริหารร่างกายได้ทุกสัดส่วนด้วยท่วงท่าและลีลาที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากแข็งแรงแล้วยังสามารถลงแข่งขันเป็นกีฬาที่มีความท้าทายมาก ในต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกาได้รับความนิยมสูงสุดมียิมให้ฝึกซ้อมกว่าหมื่นแห่ง ในเอเชียก็เริ่มทยอยเปิดกันมากขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
เช้า หนุ่มนักธุรกิจผู้ชื่นชอบกีฬา Crossfit เล่าให้ฟังว่า รู้จักกีฬานี้หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยเมจิ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นคนชื่นชอบการออกกำลังกายจึงได้พบกับ Crossfit และเริ่มเล่นฝึกฝนมาเรื่อย ๆ จนติดอกติดใจ สามารถสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแกร่งในแบบของหนุ่มสมาร์ทที่ไม่กล้ามโตหรือเล็กจนเกินไป ทำให้เขารู้สึกว่า สิ่งนี้เองที่ทำให้เขาหลงใหลนอกจากได้เหงื่อ ยังมีความท้าทายในทุกสเต็ปที่จะก้าวขึ้นไป
การเล่น Crossfit ไม่ใช่แค่ยกเวตเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ แต่มันคือคอร์สที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการชี้แนะหรือดูแลแบบนักกีฬา คือต้องมีโค้ช Crossfit โดยเฉพาะ ซึ่งโค้ชเหล่านี้จะต้องผ่านการฝึกฝนและเทรนจากครูฝึกของอเมริกาก่อนจะมาสอนนักเรียนที่เข้าคอร์สฝึก Crossfit ได้
กีฬาชนิดนี้นอกจากเสริมสร้างความแข็งแกร่งแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่เสริมสร้างเนื้อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอด้วย
“ตอนที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 ได้ลงแข่ง Alpine Skiing และได้รับอุบัติเหตุเอ็นขาฉีกจนต้องผ่าตัด และใช้เวลาบำบัดกับการฟื้นฟูการเดินใหม่ที่ต้องใช้ความอดทนมาก จึงคิดว่าต้องออกกำลังกายให้จริงจังเพื่อร่างกายที่แข็งแรงและจะลดการบาดเจ็บ โดยเริ่มจากออกกำลังกายแบบ Body Building เพื่อเน้นเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่รู้สึกไม่ค่อยสนุก เพื่อนจึงได้แนะนำให้ลองเล่นกีฬา Crossfit ที่มีความนิยมมากในต่างประเทศ และได้เริ่มเล่นตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ญี่ปุ่น และไม่แน่ใจว่าจะเล่นไหวหรือไม่ในขณะนั้น เพราะหลังจากบำบัดมาได้ 1 ปี ข้อเข่ายังคงมีอาการเจ็บอยู่บ้าง แต่เมื่อได้ลองเล่นถึงได้พบว่าสนุกและสามารถพัฒนาการเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ตามลำดับ เพราะได้รับการเอาใจใส่ที่ดีจากโค้ชและเพื่อนสมาชิกที่เล่นด้วยกัน”
ด้วยเหตุนี้เมื่อกลับมาเมืองไทย เช้าจึงสนใจอยากเปิดยิม Crossfit ให้คนไทยสัมผัสกับกีฬาชนิดนี้
“Crossfit เป็นกีฬาที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย และไม่ได้ดูบ้าพลังอย่างที่หลายคนเห็น ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด Crossfit เป็นกีฬาที่มีลำดับขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้น ที่จะพัฒนาไปสู่ความแข็งแรงในแต่ละขั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นผู้เล่นจึงมีแรงกระตุ้นที่อยากจะพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ และมีความสนุกสนาน ในขณะเดียวกัน บรรยากาศในยิมก็ไม่เหมือนกับฟิตเนสทั่วไป สมาชิกที่เข้ามาเล่นจะมีการแชร์ประสบการณ์และให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน คอยเชียร์ให้กำลังใจกัน และในการแข่งขันกีฬาชนิดนี้เป็นชนิดเดียวที่ทุกคนจะให้กำลังใจกันจนกว่าคนสุดท้ายจะแข่งเสร็จ นอกเหนือจากการดูแลอย่างใกล้ชิดจากโค้ช ซึ่งสำคัญมาก ทุกวันนี้อาการบาดเจ็บได้หายสนิทแล้วครับ”
ที่แตกต่างจากฟิตเนสทั่วไป Crossfit จะสร้างเพื่อนใหม่เหมือนกับคอมมิวนิตี้มอลล์ที่ทุกคนสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนและให้กำลังใจกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างเล่นหรือเสียบหูฟังเท่านั้น
งานนี้หนุ่มธุรกิจหน้าใหม่คนนี้กำลังเตรียมเปิด Crossfit สาขาใหม่ แห่งที่ 2 ขึ้นที่ถนนพระราม 4 โดยเป็นการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ซึ่งเปิดมาก่อนสาขาแรกที่ถนนสุขุมวิท แต่เขาจะขยายสาขาใหม่ออกไปอีกเพื่อให้คนได้รู้จักกับกีฬา Crossfit มากขึ้น หากใครสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร.09-4479-6988
สำหรับกีฬา Crossfit นอกจากจะเป็นกีฬาที่ท้าทายพละกำลังแล้ว ในต่างประเทศยังมีการแข่งขันในหลายรายการระดับโลก ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้ลงแข่งขันจำนวนหลายแสนคนเลยทีเดียว