โจโควี ประธานาธิบดีอินโดนีเซียในฐานะเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ที่เกาะบาหลี เดือนพฤศจิกายนนี้ เผย ปูติน-สี จิ้นผิง จะเข้าร่วมประชุม ขณะที่ ไบเดน และ เซเลนสกี มาด้วย
วันที่ 19 สิงหาคม 2565 บลูมเบิร์ก รายงานว่า โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน และวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ต่างวางแผนที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่ม 20 (G20) ที่บาหลี อินโดนีเซีย ในปลายปีนี้
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
โจโควี กล่าวว่า “สี จิ้นผิงจะมา ประธานาธิบดีปูตินยังบอกกับผมว่าเขาจะมา”
และนี่นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำอินโดนีเซีย ยืนยันว่าทั้ง 2 คนกำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในเดือนพฤศจิกายนนี้
ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชีย-แปซิฟิกในวันนี้ (19 ส.ค.) หลังจากการตีพิมพ์รายงาน เนื่องจากความตึงเครียดทางการเมือง ทำให้นักลงทุนต้องการถือสกุลเงินสหรัฐเพื่อความปลอดภัย
การปรากฏตัวของสี จิ้นผิง และปูตินในการประชุมครั้งนี้ จะทำให้เกิดเผชิญหน้ากับโจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐ และผู้นำประชาธิปไตยคนอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดมีกำหนดจะพบปะด้วยตนเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน
และการโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากปูตินและสี จิ้นผิง ได้ประกาศความเป็นหุ้นส่วน “ไม่มีขีดจำกัด” ได้ไม่นาน จนทำให้ G-20 แตกแยกกันว่าจะคว่ำบาตรรัสเซียหรือไม่
ทางการจีน ยังไม่ยืนยันผู้นำจะออกนอกประเทศหลังโควิด-19
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ปฏิเสธที่จะยืนยันแผนการเดินทางของสี จิ้นผิง ซึ่งไม่ได้ไปต่างประเทศตั้งแต่เริ่มระบาดโควิด-19
“เราพร้อมที่จะยกระดับการประสานงานและความร่วมมือกับอินโดนีเซีย เพื่อให้แน่ใจว่าการประชุมสุดยอดจะประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าว
ปูตินและโจโกวีพูดคุยถึงการเตรียมการสำหรับการประชุมสุดยอด G-20 ในบาหลี ทางโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี โดยปูตินกล่าวในแถลงการณ์ที่ไม่ได้ระบุว่าผู้นำรัสเซียจะเข้าร่วมหรือไม่ การเข้าร่วมของปูตินอาจทำให้เขาเผชิญหน้ากับ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเนื่องจากประธานาธิบดียูเครนมีกำหนดจะอยู่ที่บาหลีด้วย
ไบเดนได้เรียกร้องให้รัสเซียถูกถอดออกจาก G-20 หลังจากการรุกรานยูเครน และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐได้กดดันอินโดนีเซียให้กีดกันปูตินออกจากการประชุมสุดยอดที่บาหลี
ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ และจีนยังเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าไบเดนและสี จิ้นผินจะไม่ได้อยู่ในเวที โดยเปิดโอกาสให้มีการจัดการประชุมแบบเห็นหน้ากันครั้งแรกนอกรอบการประชุมสุดยอดที่บาหลี จีนยุติการเจรจากับสหรัฐ เกี่ยวกับการป้องกันประเทศและพื้นที่อื่น ๆ หลังจากแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร เยือนไต้หวัน ขณะที่ทำเนียบขาววิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบทางทหารของปักกิ่งรอบเกาะ
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย วัย 61 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า “การแข่งขันของประเทศใหญ่ ๆ นั้นน่าเป็นห่วงจริง ๆ” และ “สิ่งที่เราต้องการสำหรับภูมิภาคนี้คือความมั่นคง สงบสุข เพื่อให้เราสามารถสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจได้ และผมคิดว่าไม่ใช่แค่อินโดนีเซีย ประเทศในเอเชียก็ต้องการสิ่งเดียวกันเช่นกัน”
ในฐานะเจ้าภาพ G-20 ในปัจจุบัน อินโดนีเซียพยายามสร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจในขณะที่ต่อต้านแรงกดดันที่จะกีดกันรัสเซียออกจากการประชุม ภายหลังการเยือนไต้หวันของเปโลซีเมื่อต้นเดือนนี้
กระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซียกล่าวว่า “โลกต้องการสติปัญญาและความรับผิดชอบเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคง” พร้อมเน้นว่าเคารพนโยบายจีนเดียวตามที่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แสดง
โจโควีปฏิเสธข้อกังวลที่ว่าความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีนเหนือไต้หวันอาจขยายไปสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งอินโดนีเซียอ้างสิทธิในดินแดน โดยกล่าวว่าประเทศต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการจัดการกับวิกฤตการณ์ด้านอาหาร พลังงาน และการระบาดใหญ่
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องการให้ประเทศที่ร่ำรวยขึ้นช่วยจัดหาเงินทุนเพื่อเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนและการลงทุนเพื่อขยายเศรษฐกิจของประเทศ
อินโดนีเซีย วางตัวในเกมการเมืองระหว่างประเทศ
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การลงทุนของสหรัฐในอินโดนีเซียน้อยกว่า 1 ใน 4 ของมูลค่ารวม 4 หมื่นล้านดอลลาร์ที่จีนและฮ่องกงลงทุนไป บริษัทต่าง ๆ จากประเทศจีนกำลังลงทุนในการสร้างทางหลวงและทางรถไฟความเร็วสูง และทุ่มเงินลงทุนเพื่อสร้างโรงงานแปรรูปสินค้าโภคภัณฑ์
แม้ว่ารัสเซียจะใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อย แต่บริษัทพลังงานของรัฐอินโดนีเซียอย่าง Pertamina ก็ร่วมทุนกับ Rosneft บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย เพื่อสร้างโรงกลั่นมูลค่า 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์
โจโควีกล่าวว่า อินโดนีเซียกำลังมองหาการค้าและการลงทุนที่กระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และปรับปรุงชีวิตของผู้คน 275 ล้านคนในประเทศ และไม่ได้ต้องการเข้าร่วมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
“อินโดนีเซียต้องการเป็นมิตรกับทุกคน” เขากล่าว “เราไม่มีปัญหากับประเทศใด แต่ละประเทศจะมีแนวทางของตนเอง ผู้นำแต่ละคนมีแนวทางของตนเอง แต่สิ่งที่อินโดนีเซียต้องการคือการลงทุนเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนสังคมของเรา”