อะพอลโล รีมาสเตอร์ด : ภารกิจของชายที่ต้องการนำภาพถ่ายภารกิจดวงจันทร์ให้ผู้คนได้ชื่นชมอย่างคมชัด

“ผมต้องการเห็นสิ่งที่พวกเขาเห็นมาโดยตลอด การก้าวลงจากยานลำนั้น การมองผ่านหน้าต่างบานเดียวกัน และการได้เห็นสิ่งที่พวกเขาเห็นตอนที่พวกเขาเดินบนดวงจันทร์”

แอนดี ซอนเดอร์ส มีความหลงใหลในโครงการอะพอลโล ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีความหมายมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์

แต่เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับภาพถ่ายที่บันทึกภารกิจอวกาศที่น่าทึ่งนี้ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 และต้นทศวรรษ 1970 หรืออาจจะเรียกได้ว่า การนำเสนอภาพถ่ายเหล่านี้แก่ผู้คนบนโลก ซึ่งเป็นภาพที่ขาดความคมชัด แบน และถูกบีบอัดอย่างมาก

นีล อาร์มสตรอง

ที่มาของภาพ, NASA/JSC/ASU/Andy Saunders

นั่นคือเหตุผลที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมณฑลเชชเชียร์ผู้นี้ตัดสินใจใช้เวลาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในการหยุดทำงานหลักของเขาไว้ และหันมาทุ่มเทเวลาอย่างเต็มที่ให้กับการปรับปรุงคลังภาพของสำนักงานอวกาศของสหรัฐฯ หรือ นาซา

จนได้เป็นผลงานของเขาคือ หนังสือที่ชื่อว่า อะพอลโล รีมาสเตอร์ด (Apollo Remastered) ซึ่งรวบรวมภาพถ่ายไว้ 400 ภาพ ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางสู่โลกใหม่ครั้งแรกของมนุษยชาติ

ภาพบางภาพคุณอาจจะจำได้ เพราะมันคือหนึ่งในภาพที่โด่งดังที่สุดที่เคยถ่ายไว้ แต่อีกหลายภาพ เป็นภาพที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน มีความคมชัดและความเข้มของสีที่ทำให้คุณรู้สึกอยากจะสัมผัส

นีล อาร์มสตรอง

ที่มาของภาพ, NASA/JSC/ASU/Andy Saunders

ความสำเร็จครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากการใช้การสแกนคมชัดสูงสแกนวัสดุฟิล์มดั้งเดิม (ที่นาซาเก็บรักษาไว้ในตู้แช่แข็ง) นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ความเชี่ยวชาญในการตัดต่อทางดิจิทัลที่ทันสมัยของแอนดี และเทคนิคในการปรับปรุงภาพให้ดีขึ้นต่าง ๆ ซึ่งในจำนวนนี้ตัวเขาได้พัฒนาขึ้นเองระหว่างโครงการนี้ 1-2 เทคนิค

แอนดี กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลว่า ทำไมเราไม่ควรที่จะเห็นภาพช่วงเวลาที่สำคัญในประวัติศาสตร์เหล่านี้ในแบบที่มีคุณภาพสูง เพราะมีการใช้กล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุด เลนส์ที่ดีที่สุด ฟิล์มที่ดีที่สุดในห้องปฏิบัติการที่ก้าวหน้าที่สุดในขณะนั้น

ในการทำสำเนาภาพภารกิจอะพอลโลของเขา เราจะได้เห็นภาพถ่ายที่คมชัดจนเห็นหน้าของนีล อาร์มสตรอง ขณะที่เขายืนอยู่บนดวงจันทร์ (ทำไมจึงไม่มีภาพถ่ายของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ผู้นี้บนพื้นผิวดวงจันทร์มากกว่านี้)

นอกจากนี้ก็ยังมีภาพของคนที่อยู่บนยานอวกาศอะพอลโล 13 ซึ่งเสียหายและเกือบจะระเบิดขณะเดินทางกลับสู่โลก

เรายังได้ภาพระยะใกล้ของลูกกอล์ฟที่อลัน เชปเพิร์ด จากยานอะพอลโล 14 ตีบนดวงจันทร์

Your device may not support this visualisation

หนึ่งในผลงานที่น่าประทับใจที่แอนดีได้ทำไปคือ ภาพจากภาพยนตร์ขนาด 16 มิลลิเมตร ที่บรรดามนุษย์อวกาศในยานอวกาศของพวกเขาได้ถ่ายไว้ขณะเดินทางไปและกลับดวงจันทร์ โดยภาพยนตร์ที่มีความยาว 10 ชั่วโมงในคลังของอะพอลโล แอนดีได้ใช้เทคนิค “การวางซ้อนกัน” ในซอฟต์แวร์ตัดต่อของเขาเพื่อนำเฟรมภาพหลายเฟรมมาจัดเรียงและวางทับกันหลายชั้น และรวมเฟรมเหล่านั้นกลายเป็นภาพที่มีความละเอียดสูงเพียง 1 ภาพ ที่คล้ายกับถ่ายมาจากกล้องถ่ายภาพนิ่งคุณภาพดี

ยานอวกาศเดินทางไปดวงจันทร์

ที่มาของภาพ, NASA/JSC/ASU/Andy Saunders

ตัวอย่างที่คลาสสิกอีกอย่างหนึ่งคือ ภาพใบบอกคิว ที่บิลล์ แอนเดอร์ส มนุษย์อวกาศของยานอะพอลโล 8 ใช้ในการ “การถ่ายหนังสมัครเล่น” บนยานอวกาศ ภาพแต่ละเฟรมไม่ชัดและมีเสียงรบกวน แต่เมื่อนำเฟรมเหล่านั้นมาผ่านคอมพิวเตอร์ของแอนดี เราก็ได้เห็นรายละเอียดของภาพที่ก่อนหน้านี้มองไม่เห็น อย่างเข็มนาฬิกาบนนาฬิกาข้อมือของแอนเดอร์ส

ภาพที่นำมาทำสำเนาใหม่ที่แอนดีชื่นชอบที่สุด น่าจะเป็นภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าปกหนังสือของเขา จากภาพที่เขาได้ดูจากคลังอะพอลโล 35,000 ภาพ ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพที่แย่ที่สุด มันเป็นภาพที่แสงไม่พอ

สิ่งที่เห็นในภาพเพียงอย่างเดียวคือ แสงสว่างด้านบนที่ดูเหมือนจะเป็นแสงสะท้อนจากหน้าต่าง แต่ซอฟต์แวร์ดิจิทัลที่ทันสมัย ทำให้เห็นภาพที่น่าอัศจรรย์ขึ้น นั่นก็คือ จิม แม็กดิวิตต์ ผู้บัญชาการยานอะพอลโล 9 ที่กำลังสวมหมวกในชุดมนุษย์อวกาศอยู่ ขณะที่เขากำลังเชื่อมต่อยานอวกาศ 2 ลำเข้าด้วยกัน

ยานอะพอลโล 13

ที่มาของภาพ, NASA/Andy Saunders (Digital source Stephen Slater)

“มันคือภาพคนที่ยอดเยี่ยมของมนุษย์อวกาศในปี 1969 ที่ดูเหมือนกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างด้านบนด้วยความสงสัย” แอนดี อธิบาย

แอนดีบอกว่า ในความเป็นจริงแล้ว แม็กดิวิตต์ กำลังเชื่อมต่อยานอวกาศอยู่ และเป็นงานที่มีความเสี่ยงสูง ถ้าไม่มีการเชื่อมต่อยานเข้าด้วยกัน พวกเขาก็จะไม่สามารถเดินทางกลับโลกได้ นี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่ามาก เป็นช่วงเวลาแห่งความตึงเครียด และช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์

ในการทำโครงการนี้ แอนดีต้องกลายเป็นนักศึกษาเรื่องสีและแสง โดยจะต้องมีการพูดคุยกับบรรดามนุษย์อวกาศเพื่อให้ทราบถึงความประทับใจจากพวกเขาโดยตรง นอกจากนี้เขายังต้องฟังเสียงที่บันทึกไว้นานหลายชั่วโมง เพื่อเก็บรายละเอียดช่วงที่มีการบันทึกภาพแต่ละภาพไว้

ทิวทัศน์บนดวงจันทร์

ที่มาของภาพ, NASA/JSC/ASU/Andy Saunders

“มีสิ่งต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสีของฟิล์ม” เขากล่าว โดยระบุว่า ภาพที่มนุษย์อวกาศถ่ายโดยตรงนอกยาน ก็จะให้สีที่แตกต่างจากภาพที่ถ่ายผ่านหน้าต่างของยานอวกาศเล็กน้อย

ในอีกไม่กี่วันนี้ นาซาจะเริ่มภารกิจเดินทางสู่ดวงจันทร์อีกครั้ง ในโครงการอาร์ทิมิส ซึ่งจะเริ่มจากการปล่อยจรวดนำส่งยานอวกาศไปบินวนรอบดวงจันทร์ โดยไม่มีมนุษย์อวกาศเดินทางไปด้วย ไม่กี่ปีหลังจากนั้นจึงจะเริ่มภารกิจส่งมนุษย์อวกาศไปดวงจันทร์

บัซซ์ อัลดริน

ที่มาของภาพ, NASA/JSC/ASU/Andy Saunders

แน่นอนว่า โครงการอาร์ทิมิสจะมีความน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง คาดว่า จะมีการเก็บภาพจากจุดที่ดีที่สุดในการเก็บภาพทุกจุด ภาพมุมมอง 360 องศา ความคมชัดระดับ 4K และการถ่ายทอดสด

แอนดีบอกว่า เขาตั้งหน้าตั้งตารอชมภารกิจนี้ “คุณรู้ไหมว่า เราจะได้เห็นผู้หญิงคนแรกที่เดินบนดวงจันทร์ ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่งมาก หวังว่า คงจะมีคนจำได้ว่า ต้องถ่ายภาพไว้”

ภาพเหล่านี้จะมีการตะเวนจัดแสดงเริ่มจากที่รอยัล อัลเบิร์ต ฮอล ในกรุงลอนดอน ช่วงสิ้นเดือน ก.ย. ก่อนที่จะย้ายไปที่ศูนย์วิทยาศาสตร์กลาสโกว์ในช่วงเดือน พ.ย. แอนดีได้พูดถึงภาพต่าง ๆ ทาง ทวิตเตอร์ และ อินสตาแกรม

Andy Saunders

……

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว