เงินบาทแข็งค่ารับแรงหนุนเศรษฐกิจโลกขยายตัวดี

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.95/97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (17/1) ที่ระดับ 31.95/97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยในคืนที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐรายงานดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนธันวาคม โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในการทำความร้อน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐ นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ “Beige Book” โดยระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2560 จนถึงต้นปี 2561 ขณะที่ค่าแรงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเขตส่วนใหญ่รายงานว่าค่าแรงปรับตัวเพิ่มขึ้นปานกลาง ขณะที่บางเขตรายงานว่า บริษัทเอกชนในเกือบทุกภาคส่วนอุตสาหกรรมได้ปรับเพิ่มค่าแรงและตำแหน่งงาน รายงาน Beige Book ระบุหลายเขตมีการรายงานว่า การขยายตัวในด้านการผลิต การก่อสร้าง และการขนส่งนั้น ส่งผลให้ต้นทุนปรับตัวขึ้นด้วย ขณะที่บริษัทเอกชนในบางเขตกล่าวว่า พวกเขาสามารถปรับขึ้นราคาขายสินค้า นอกจากนี้ บางเขตยังมีการคาดการณ์ว่าค่าแรงจะปรับเพิ่มขึ้นอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ รายงาน Beige Book ยังระบุว่าแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วประเทศของสหรัฐในปี 2561 ยังคงสดใส โดยเขตส่วนใหญ่รายงานว่า ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวและยังสามารถเปิดรับพนักงานที่มีความสามารถในทุภาคส่วน การเปิดเผยรายงาน Beige Book ครั้งล่าสดนี้ มีขึ้นก่อนที่จะประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 มกราคมนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในกรอบ 1.25%-1.50% ในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนที่ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ท่ามกลางความกังวลในการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการจะถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA)

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศนั้น นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยดัชนีภาวะการค้าภาคบริการของไทยในเดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 106.6 ปรับตัวสูงขึ้น 5.8% และขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน สะท้อนถึงสถานการณ์การค้าภาคบริการที่ยังอยู่ในระดับดี สำหรับแนวโน้มภาวะการค้าภาคบริการในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากตัวชี้วัดสำคัญในหมวดศักยภาพ/ความเชื่อมั่น (Potential and Confidence) ที่ปรับตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ตัวเลขเงินบัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงเกินดุลอยู่ในช่วงปลายปี 2560 และมีแนวโน้มที่จะเกินดุลต่อไปในช่วงต้นปี 2561 ส่งผลให้ค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าจากเงินทุนที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 31.92-32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.93/95 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (12/1) เปิดตลาดที่ระดับ 1.2192/94 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากราคาปิดตลาดในวันพุธ (11/1) ที่ระดับ 1.2236/38 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรปออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินยูโรที่แข็งค่ามากเกิน ส่งผลให้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเงินยูโรยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าในช่วงต้นปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางยุโรปเตรียมคุมเข้มนโยบายการเงินโดยจะถอนตัวจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 1.2166-1.2218 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตาดที่ระดับ 1.2208/09 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ในส่วนของค่าเงินเยนวันนี้ (12/1) เปิดตลาดที่ระดับ 111.24/26 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากราคาปิดตลาดในวันพุธ (12/1) ที่ระดับ 110.82/84 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนักลงทุนมีการเทขายเงินเยนออกมาท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน ทั้งนี้ ในระหว่างวนค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่าง 111.11-111.48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 111.28/30 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญที่ต้องจับตาดูในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (18/1) ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมกราคมจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) (18/1) ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธันวาคม (18/1)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.7/-1.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap piont) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.0/-2.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ