ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากเกิดความเสียหายในท่อส่งก๊าซของนอร์ดสตรีม ท่ามกลางความกังวลต่ออุปทานก๊าซ
วันที่ 27 กันยายน 2565 บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเกิดความเสียหาย ผ่านมา 4 วัน ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อความไม่แน่นอนถึงอุปทานก๊าซธรรมชาติในอนาคต
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
ทั้ง ราคาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 12% หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อต้นสัปดาห์นี้ หลังจากท่อส่งก๊าซ 2 แหล่งของนอร์ดสตรีมที่ส่งไปเยอรมนี และอีกแห่งส่งผ่านนอร์ดสตรีม 2 ไปยังยุโรป แรงดันลดลงมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการรั่วไหลของก๊าซ ซึ่งตรวจสอบพบโดยหน่วยงานของสวีเดนและเดนมาร์กในทะเลบอลติก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ไม่มีการจ่ายก๊าซจากรัสเซียในเส้นทางนี้ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดเกิดความกังวลใจ โดยมีผู้ค้าและเจ้าหน้าที่คอยจับตาดูสัญญาณบ่งชี้การก่อวินาศกรรม
ส่วนบริษัทที่ดำเนินการแหล่งส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเปิดเผยว่า ความเสียหายที่เกิดกับโครงข่ายท่อส่งก๊าซนั้น “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และไม่สามารถบอกได้ว่าจะกลับมาปล่อยก๊าซอีกครั้งเมื่อใด
นอกจากนี้ หน่วยงานควบคุมน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเช่นกันว่า โดรนที่ไม่ปรากฏชื่อถูกพบใกล้กับสถานที่ปฏิบัติงานนอกชายฝั่ง พร้อมเรียกร้องให้ “ผู้ปฏิบัติงานและเจ้าของเรือทุกคนต้องระมัดระวังมากขึ้น”
คำเตือนจากนอร์เวย์และข่าวเกี่ยวกับนอร์ดสตรีม ทำให้เกิดความกังวลและ “ทำให้เกิดความผันผวน” ในตลาดพลังงาน ตามการรายงานของ EnergyScan แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ด้านพลังงานของ Engie SA ระบุในหมายเหตุแก่นักลงทุน
นอร์ดสตรีมประกาศหยุดทำการถึง 26 ต.ค.
ทั้งนี้ นอร์ดสตรีม ส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรปเกือบ 40% เมื่อปีที่แล้ว แต่บริษัท ก๊าซพรอม พีเจเอสซี ได้ตัดกระแสก๊าซในเส้นทางนั้นออกเป็นหลายขั้นตอน นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยอ้างถึงปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่จุดเริ่มต้นก่อนที่จะหยุดส่งก๊าซทั้งหมด ในนอร์ดสตรีม 2 ด้วยเช่นกัน
คลัวส์ มูลเลอร์ ประธานหน่วยงานกำกับดูแลเครือข่ายของเยอรมนี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า สถานการณ์ตลาดยังคง “ตึงเครียด” แต่เยอรมนีและสหภาพยุโรปจะไม่พึ่งพาวัสดุเหล่านั้นอีกต่อไป
ขณะที่บริษัท นอร์ดสตรีม ออกประกาศการหยุดทำงานอย่างเป็นทางการจนถึงวันที่ 26 ต.ค. ในขณะที่กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีกล่าวว่า “อยู่ในขั้นตอนการชี้แจงเรื่องนี้”
ส่วนราคาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า ส่งมอบเดือนตุลาคมในเนเธอร์แลนด์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 194.74 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง จากระดับก่อนหน้าที่ 191 ยูโรต่อเมกะวัตต์-ชั่วโมง ภายในเวลา 11.32 น. (ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้) หรือเพิ่มขึ้น 8.6%
ยุโรปลดพึ่งพารัสเซีย แม้ต้องเผชิญความไม่แน่นอน
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา ราคาพลังงานในยุโรปลดลงเกือบ 40% เนื่องจากสต๊อกมีเพิ่มขึ้น เพื่อรับกับฤดูหนาว ขณะที่หลายประเทศในยุโรปเดินแผนลดการใช้พลังงาน ทำให้สต๊อกพลังงานมีเพิ่มขึ้นเป็น 88% ของความสามารถในการกักเก็บ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระยะ 5 ปีก่อนหน้า
แม้ว่าท่อส่งก๊าซจากรัสเซียจะส่งก๊าซลดลง แต่ก๊าซในสต๊อกยังมี ซึ่งทำให้ช่วงที่ผ่านมายุโรปคลายกังวลเรื่องก๊าซไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ อย่างไรก็ตาม ยุโรปได้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG เพิ่มขึ้นถึง 40% สำหรับฤดูหนาวที่จะถึงนี้ และนักวิเคราะห์ประเมินว่า น่าจะเพียงพอต่อการหยุดชะงักของท่อส่งก๊าซจากรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ยังจับตาดูการเคลื่อนไหวของมอสโกอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าสถานการณ์แย่ลงหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความสามารถของยุโรปในการเติมพื้นที่จัดเก็บในฤดูร้อนครั้งหน้า หากไม่มีก๊าซของรัสเซีย
มาร์ติน เดเวนิช กรรมการผู้จัดการ S-RM Intelligence & Risk Consulting Ltd. อดีตนักวิเคราะห์จาก โกลด์แมน แซกส์ กรุ๊ป กล่าวว่า เราซื้อเวลาอีก 6 เดือน เพื่อผ่านฤดูหนาว แม้ว่าจะมีเงินอุดหนุนสูง และจะต้องใช้เวลานี้ เพื่อตอกย้ำข้อความว่าสิ่งนี้จะไม่หายไป และวิกฤตที่แท้จริงคือฤดูหนาวปี 2566 และผลกระทบของมันอาจคงอยู่นาน 3-4 ปี หากทุกอย่างยังเหมือนเดิม
ขณะที่ คณะกรรมาธิการยุโรปอยู่ภายใต้แรงกดดันให้เสนอมาตรการควบคุมวิกฤตพลังงานที่เลวร้ายที่สุดของภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ และเลื่อนการเผยแพร่แผนโดยละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนในอนาคต เพื่อลดราคาก๊าซและบรรเทาความผันผวนในตลาด
โดยนักการทูตของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การเปิดเผยเอกสารดังกล่าว ซึ่งวางแผนไว้อย่างไม่แน่นอนในวันที่ 28 ก.ย. นี้ จะเลื่อนออกไป ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปจะหารือกันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ย.) ว่าจะสามารถใช้การกำหนดราคาได้หรือไม่
