กรมทางหลวงระดมเจ้าหน้าที่ กู้ทางกาฬสินธุ์ 24 ชั่วโมง

ทางหลวงกาฬสินธุ์

สราวุธ อธิบดีกรมทางหลวงเผยระดมเจ้าหน้าที่เร่งกู้เส้นทางน้ำท่วมในกาฬสินธุ์ ตลอด 24 ชม. พบทางหลวงยังกระทบจากเหตุน้ำท่วม 6 จังหวัด

วันที่ 30 ตุลาคม 2565 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ระดับน้ำยังคงทรงตัว ส่งผลกระทบให้ประชาชนในพื้นที่และรอบ ๆ ได้รับความเดือดร้อน กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ดำเนินการระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้เส้นทาง โดยกั้นน้ำด้วยการวางกระสอบทราย สูบนำ้ออกจากผิวจราจร เพื่อเปิดการจราจรให้เร็วที่สุด และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง บนทางหลวงหมายเลข 214 สาย กาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ระหว่าง กม.24+400 – กม.27+800 ช่วงจากบ้านหัวแฮดถึงสี่แยกไฟแดง บ้านท่ากลาง, บ้านท่าเพลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์

ซึ่งที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ให้ความช่วยเหลือทั้งกรณีเร่งด่วนและต่อเนื่องตามสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง โดยดำเนินการตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจถึงประชาชนในพื้นที่ให้สามารถผ่านวิกฤตการณ์ดังกล่าวไปได้โดยเร็ว

พร้อมกันนี้กรมทางหลวงได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดยสถานการณ์ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2565 เวลา 12.00 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.ศรีสะเกษ, หนองบัวลำภู, จ.มหาสารคาม, จ.กาฬสินธุ์, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ภูเก็ต จำนวน 6 สายทาง 6 แห่ง  ที่การจราจรผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ดังนี้

1.จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา-ละทาย ในพื้นที่อำเภอกันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำ 35 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565

2.จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู-เขื่อนอุบลรัตน์ ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+100 ระดับน้ำ 40-50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 15 พฤศจิกายน 2565

3.จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 2391 ตอน กู่ทอง–บ้านเขื่อน ช่วง กม.ที่ 23+900 – 24+900 ระดับน้ำ 40-50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

4.จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 214 ตอน บ้านหลุบ-ลำชี ในพื้นที่ อ.กมลาไสย ช่วง กม.ที่ 23+200 – 24+800 ระดับน้ำ 40-70 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 23, 213, 12 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 30 ตุลาคม 2565

5.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา-บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 13+500 – 15+950 ระดับน้ำ 30 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038 คาดว่าการจราจรจะผ่านได้ 1 พฤศจิกายน 2565

6.จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 แห่ง  บนทางหลวงหมายเลข 4029 ตอน กะทู้–ป่าตอง ในพื้นที่ อ.กะทู้ ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+005 พื้นผิวจราจรเกิดการสไลด์ตัว ให้ใช้ทางเลี่ยง ทล.4025, 4028 และ 4030 อยู่ระหว่างการซ่อมแซม คาดว่าผ่านได้ 10 พฤศจิกายน 2565

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด