ปลัด สธ.คาดสถานการณ์โควิด ปี 2566 ไม่แตกต่างจากเดิม

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ปลัด สธ.คาดปีหน้าสถานการณ์โควิด-19 ไม่น่าแตกต่างจากเดิม ทั้งการระบาดแบบ Small Wave และการกลายพันธุ์ย่อย ๆ ขณะที่คนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น แต่ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องให้วัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกัน พร้อมกำชับสถานพยาบาลเพิ่มจุดฉีดวัคซีนและหน่วยเชิงรุก ย้ำขอให้มารับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม ไม่ต้องห่วงว่าจะรอวัคซีนรุ่นใหม่

วันที่ 9 ธันวาคม 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าในปี 2566 สถานการณ์การระบาดไม่น่าแตกต่างจากเดิม ยังจะพบการระบาดในลักษณะ Small Wave เชื้อโรคอาจมีการกลายพันธุ์ย่อย ๆ เล็กน้อย ขณะที่คนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น แต่ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องให้วัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ

ส่วนช่วงท้ายปี 2565 ระบบสาธารณสุขยังรองรับสถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นได้ อีกทั้งสถานการณ์ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตทุกรายยังอยู่ในกลุ่ม 608 และเกือบทั้งหมดไม่ได้รับวัคซีน ได้รับไม่ครบ หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกินกว่า 3 เดือน จึงต้องเร่งรัดเชิญชวนกลุ่ม 608 รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนหรือติดเชื้อมาแล้วเกิน 3-4 เดือน ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามหลัก “4 เข็ม 4 เดือน” คือรับให้ครบ 4 เข็ม หากเข็มล่าสุดเกิน 4 เดือน ให้มารับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน

โดยได้กำชับสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขแล้วว่า ให้บริการประชาชนทุกคนที่เข้ามาขอรับบริการ อย่ากังวลเรื่องการสูญเสียวัคซีนจนเกินไป รวมถึงให้จัดจุดบริการเพิ่มขึ้นและหน่วยฉีดเชิงรุก ส่วนพื้นที่ กทม.ได้ประสานคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ช่วยเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ให้ครบถ้วน

“สิ่งสำคัญคือ ขอให้มารับวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม และฉีดตามกำหนด เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ไม่ต้องห่วงว่าจะรอวัคซีนรุ่นใหม่ เนื่องจากการนำมาฉีดกระตุ้นไม่ได้ให้ผลแตกต่างกว่าการฉีดวัคซีนรุ่นเดิมมากนัก และเชื้อยังมีการกลายพันธุ์ย่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง วัคซีนที่ผลิตออกมาจึงไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัส” นพ.โอภาสกล่าว

สำหรับมาตรการป้องกันตนเองยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการสวมหน้ากากเมื่อมีอาการในระบบทางเดินหายใจ หรืออยู่ในที่มีคนจำนวนมาก หรือแออัด


ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในกลุ่มต่าง ๆ ทั้งสถานพยาบาล ตลาด แรงงานต่างด้าว ชุมชนแออัด เป็นต้น หากมีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ