
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามเห็นชอบการลาออกของนายดิสทัต โหตระกิตย์ จากเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
โดยมีชื่อ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) คั่วตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คนล่าสุด ก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งในกลางปี 2566
- เจาะลึกพฤติกรรม “Silver Age” สูงวัย ไม่เท่ากับ คนแก่
- วันหยุดเดือนธันวาคม 2566 เช็กวันหยุด วันสำคัญ วันหยุดยาว-หยุดต่อเนื่อง
- เปิดพอร์ตห้างเซ็นทรัล-โรบินสัน 75 สาขา ในมือซีอีโอใหม่ “ณัฐธีรา บุญศรี”
การแต่งตั้งนายพีระพันธุ์ นอกจากทำหน้าที่ทั้งจัดทีม ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงสู่สนามเลือกตั้ง เร่งเกมชิงหัวหน้ารัฐบาล-แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยังเป็นการเซตเกมฝ่ายบริหารในช่วงปลายสมัย พล.อ.ประยุทธ์ 2/5 อีกด้วย และนายพีระพันธุ์ถือว่าเป็น “นักการเมืองอาชีพ” คนเดียว ที่ประจำการในตึกไทยคู่ฟ้า ในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะก่อนหน้านี้ ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ล้วนมาจากข้าราชการประจำ
พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการคนที่ 1
สำหรับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี คนแรก พล.อ.วิลาศ อรุณศรี แต่งตั้งเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 เตรียมทหาร รุ่นที่ 12 (ตท.12) เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารของพล.อ.ประยุทธ์
ประวัติของ พล.อ.วิลาศ เคยดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพน้อยที่ 1 ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายการข่าว ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก
หลังจากเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2556 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคนที่ 2
คนที่สอง นายดิสทัต โหตระกิตย์ ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประวัตินายดิสทัต เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิก สนช. และเป็น 1 ใน 7 สมาชิก สนช.ที่โดนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ “ขาดประชุมบ่อย”
อย่างไรก็ตาม ผลการพิจารณาของคณะกรรมการจริยธรรม สนช. ที่มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สนช.เป็นประธาน ระบุว่า “ไม่มีความผิด”
นายดิสทัตแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีพ้นจากตำแหน่งประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 62 มีทรัพย์สินรวมคู่สมรส 206,688,559 บาท ไม่มีหนี้สิน มีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 1 คน
พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้เครดิตนายดิสทัตระหว่างแนะนำคณะร่วมเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า “เป็นคนที่ช่วยให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องเข้าคุก”
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการคนที่ 3
คนที่สาม-เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ช่วงปลายสมัย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปัจจุบันยังเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
พีระพันธุ์จบระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
นายพีระพันธุ์เคยเข้าไปเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีภารกิจวางพิมพ์เขียว-โครงสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมือง แต่โดนต่อต้านจากคนในพรรค เพราะมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ส่งมายึดพรรค
นายพีระพันธุ์เริ่มเข้าสู่สนามการเมือง ตั้งแต่ปี 2539 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกเป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 3 เมื่อปี 2550 เคยดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์
นายพีระพันธ์ุเคยลงสมัครรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 8 พ่ายแพ้ให้กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ โดยคะแนนเป็นอันดับ 2 ก่อนจะลาออกสมาชิกพรรค-ส.ส.บัญชีรายชื่อประชาธิปัตย์ปี 2562
ตลอด 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งอยู่บนบัลลังก์ตึกไทยคู่ฟ้า มี 3 เลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่เปรียบเป็น “นายกฯน้อย” สลับสับเปลี่ยน โดยมี “เสธ.คนดัง” ประจำการถาวร