สมาคมฟินเทค เสนอรัฐหนุนไทยตั้ง Fintech Hub ภายใน 3 ปีก่อนตกขบวน

ชลเดช เขมะรัตนา

สมาคมฟินเทค แนะรัฐบาลใหม่สนับสนุนตั้ง Fintech Hub ในไทยภายใน 3 ปีก่อนตกขบวน ชี้ไทยมีความพร้อมหลายด้าน มองเป็นโอกาสหนุนเม็ดเงินลงทุน-ยกระดับระบบการเงินไทย

วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 นายชลเดช เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย กล่าวว่า  สำหรับฟินเทคในประเทศไทยเราค่อยข้างมีความพร้อมในหลาย ๆ ส่วน ยกตัวอย่างเช่น ประเทศไทยมีการใช้งาน Mobile banking สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก มีระบบ Promptpay ที่ใช้ในประเทศและยังเชื่อมประเทศอื่น ๆ เช่น เชื่อมต่อเพย์นาว (PayNow) เป็นส่วนหนึ่งของระบบโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ของสิงคโปร์ และยังมีระบบ QR code ที่พัฒนาและก้าวหน้า  รวมถึงมีความร่วมมือกับหลาย ๆ ประเทศในเรื่องของการทำ Central Bank Digital Currency (CBDC)

และที่สำคัญประเทศไทยยังมีตลาดทุนที่มีวอลุ่มซื้อขายต่อวันค่อนข้างสูงรวมถึงมีมูลค่าการระดมทุนผ่านการไอพีโอ (IPO) ที่สูงมาก ๆ ในอาเซียน ประกอบกับประเทศไทยมีบริษัทด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก  ดังนั้นจะเห็นว่าประเทศไทยถือว่าค่อนข้างพร้อมมาก ๆ ในเรื่องของระบบการเงินใหม่ที่มีความก้าวหน้า

ดังนั้น หากภาครัฐเห็นถึงความสำคัญนี้และมีความต้องการที่จะสนับสนุนอาจจะมีการสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางของฟินเทค (Fintech Hub)  โดยการดึงบริษัทด้านฟินเทคจากทั่วโลกให้เข้ามาตั้งบริษัทในไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางภาครัฐน่าจะต้องมีการอำนวยความสะดวกให้บริษัทเหล่านี้สามารถเข้ามาจัดตั้งบริษัทได้ง่ายขึ้น

โดยมองว่าหน่วยงานรัฐที่น่าจะต้องเข้ามาส่งเสริมและเป็นหน่วยที่ทางสมาคมฟินเทคจะเข้าไปพูดคุยถึงประเด็นนี้น่าจะเป็นกระทรวงการคลังและกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นอกจากนั้นคงจะต้องมีการพูดคุยกับอีกหลาย ๆ หน่วยงาน ซึ่งสมาคมเองก็จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเรื่องนี้ด้วย  และจะต้องมีการประเมิน การวางแผนร่วมกัน

“ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยตกขบวนเรื่องคลื่นดิจิทัล แต่ตอนนี้เรากำลังอยู่ในคลื่นของฟินเทคซึ่งประเทศไทยสามารถที่จะเกาะไปได้ ดังนั้นในข่วง 2-3 ปีนี้น่าจะต้องเร่งสร้าง Fintech Hub ให้เกิดขึ้นไม่เช่นนั้นประเทศไทยอาจจะตกขบวนอีกครั้งเหมือนที่ผ่านมา” นายชลเดช กล่าว

ADVERTISMENT

ทั้งนี้โอกาสที่จะสร้าง Fintech Hub ได้สำเร็จมองว่าค่อนข้างสูง เพราะประเทศมีความพร้อมในหลายด้านตามที่กล่าวไปข้างต้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการประชาสัมพันธ์ที่จะทำให้บริษัทด้านฟินเทคในต่างประเทศอยากจะเข้ามาตั้งบริษัทในไทย และช่วยในการอำนวยความสะดวกในเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมโดยข้อดีของการมี Fintech Hub ในไทย คือ 1.จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยหนุนเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในไทยและ 2.ช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจรวมถึงยกระดับธุรกรรมการเงิน