บิ๊กประกันชีวิต สั่งลุย ครึ่งปีหลัง…งัดสารพัดสูตรโกยเบี้ย

สัญญาณธุรกิจประกันชีวิตในช่วงครึ่งปีจากนี้ ถือเป็นช่วงเวลาของการเร่งเครื่อง เพื่อทำยอดเบี้ยให้เติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งแม้จะมีความคาดหวังจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้สดใส และสามารถดึงผู้บริโภคระดับบนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง บวกกับช่วงปลายปีคนแห่ซื้อประกันเพื่อสิทธิลดหย่อนภาษีกัน แต่ก็ยังต้องขึ้นกับการวางกลยุทธ์เชิงรุกของแต่ละค่ายประกันที่จะออกมาด้วยว่าจะกลายเป็นธงนำเพื่อพาธุรกิจไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่ประชาชาติธุรกิจŽจึงรวบรวมทิศทางดำเนินงานของผู้บริหารของประกันชีวิตหลายแห่งมานำเสนอดังนี้

มาดูภาพรวมของประกันชีวิตในสายตาของนายกสมาคมประกันชีวิตไทยกันก่อนนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์Ž กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต ได้ฉายภาพรวมประกันชีวิตว่า สมาคมยังมองว่าในปีนี้ทิศทางธุรกิจประกันชีวิตจะยังคงเติบโตได้ต่อเนื่อง เพราะมีปัจจัยบวกในหลายประเด็น เช่น กระแสสังคมผู้สูงวัย ภาครัฐกระตุ้นให้คนวางแผนทางการเงิน หรือการซื้อประกันชีวิตลดหย่อนภาษี ฯลฯ ดังนั้น จึงยังคงประมาณการตัวเลขเบี้ยรับรวมของปีนี้ไว้ที่ 6 แสนล้านบาท เติบโต 6% จากปีก่อน

ทั้งนี้ 4 เดือนแรกปีนี้เบี้ยรับรวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 191,644 ล้านบาท เติบโต 5%

“ที่สำคัญเรามองว่าตลาดประกันชีวิตในไทยยังมีช่องว่างอีกมาก เพราะคนไทยมีอัตราถือกรมธรรม์ประกันชีวิตเพียง 38% ของคนไทยทั้งหมด ขณะที่ช่องทางหลักคือ ตัวแทน จะเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม และยังมีช่องทางขายตรงและช่องทางใหม่ ๆ อย่างเช่น ดิจิทัล ที่มีโอกาสเติบโตได้ดีอีกด้วย”Ž นุสราอธิบาย

ทั้งนี้ ปัจจุบันช่องทางขายผ่านตัวแทนประกัน จะมีสัดส่วนประมาณ 50.5% ของเบี้ยรับรวมทั้งระบบ ซึ่งปีนี้ก็ยังเป็นช่องทางหลักเติบโตอยู่แล้ว ในขณะที่ช่องทางการขายผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) จะมีสัดส่วน 43.6% แม้ว่าจะมีการเติบโตลดลง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดขายแบบประกันคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA) ลดลง แต่ยอดขายแบบประกันอื่น ๆ เช่น ออมทรัพย์ แบบประกันความคุ้มครอง และแบบประกันตลอดชีวิตยังคงสามารถเติบโตได้ดี

อย่างไรก็ตาม หากกล่าวถึงในส่วนของไทยสมุทรฯ นุสราŽ ระบุว่า ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะออกแบบประกันใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการทำแพ็กเกจให้ลูกค้าเข้าใจง่าย ซื้อง่าย นอกจากนี้ มีประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ที่มีเทรนด์จะเติบโตมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำส่งผลให้บริษัทออกแบบประกันสะสมทรัพย์ที่การันตีผลตอบแทนจูงใจลูกค้าได้ยากขึ้นด้วย

สำหรับผลดำเนินงานในช่วง4เดือนแรกที่ผ่านมาของไทยสมุทรฯถือว่าน่าพอใจ เพราะเบี้ยรับรายใหม่ยังมีการเติบโต ในขณะที่ช่องทางการขายหลัก คือ ช่องทางตัวแทนมีสัดส่วน 60-70% ของเบี้ยรับรวม

ด้าน ดร.อภิรักษ์ ไทพัฒนกุลŽ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยประกันชีวิต ประเมินว่า ครึ่งปีหลังนี้ ธุรกิจประกันชีวิตมีโอกาสที่จะเติบโต เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดี ในขณะที่การแข่งขันในตลาดประกันชีวิตจะทำให้แต่ละบริษัทประกันต้องออกแบบประกันใหม่ ๆ ที่เจาะจงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น และการขายโดยหลักยังมาจากฝั่งตัวแทนเป็นกำลังสำคัญ

“ในส่วนของไทยประกัน เทรนด์โปรดักต์ที่ขายก็ไม่ได้หนีกันมากนัก อย่างประกันออมทรัพย์ก็จะอยู่ที่ลูกเล่นว่าจะออกแบบชำระเบี้ยระยะสั้นหรือยาว นอกจากนี้ ยังมียูนิตลิงค์ซึ่งบริษัทกำลังผลักดันตัวแทนให้สอบไลเซนส์การขายยูนิตลิงค์ด้วย สำหรับปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนเบี้ยจากช่องทางตัวแทนกว่า 70% ของเบี้ยรับรวม โดยมีตัวแทนราว 5 หมื่นคน ในปีนี้เราตั้งเป้าหมายเบี้ยรับรวมผ่านช่องทางตัวแทนเติบโต 10% ขึ้นไปเมื่อเทียบกับปีก่อน”Ž ดร.อภิรักษ์กล่าว

สำหรับ “วิพล วรเสาหฤท”Ž กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิตกล่าวว่า หากดูในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ตัวเลขเบี้ยรับรวมของบริษัทก็ยังไม่เติบโตได้ตามที่วางไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากพอร์ตเบี้ยปีต่ออายุยังติดลบอยู่ แต่ยังมีเบี้ยปีแรกที่เติบโตได้ราว 4-5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ประกอบกับปีนี้ยังเป็นอีกปีที่บริษัทอยู่ระหว่างการปรับแบบประกันในพอร์ต เพื่อให้พอร์ตสมดุลขึ้นกว่าในอดีต อย่างไรก็ตาม บริษัทจะทำเบี้ยรับรวมเติบโต 17% ได้ตามเป้าหมาย

”ตอนนี้เราพยายามปรับสัดส่วนแบบประกันในพอร์ตให้สมดุล โดยลดการขายแบบประกันออมทรัพย์ที่เป็นซิงเกิลพรีเมี่ยม (เบี้ยประกันแบบชำระครั้งเดียว) แล้วเพิ่มแบบประกันความคุ้มครองหรือแบบประกันระยะยาว เพื่อจะได้ช่วยเพิ่มพอร์ตของเบี้ยปีต่อไปให้มากขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการปรับตัวŽ”

ทั้งนี้ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิตมีช่องทางขายหลักมาจากแบงก์แอสชัวรันซ์สัดส่วนอยู่ที่ 60% ของเบี้ยรับรวม ช่องทางตัวแทนอยู่ที่ 30% ส่วนที่เหลือเป็นช่องทางอื่น ๆ

ปิดท้าย “บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ”Ž ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจนเนอราลี่ ประกันชีวิตกล่าวว่า ครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะมุ่งขยายช่องทางตัวแทน เพราะเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลาย ซึ่งในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเบี้ยรับรวมที่ขายตัวแทนโต 15% เป็นผลมาจากบริษัทจะออกแบบประกันใหม่ ๆ ทุกไตรมาสเพื่อสนับสนุนให้ตัวแทนสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เช่น ยูนิตลิงค์ แบบประกันสุขภาพ โรคร้ายแรง ฯลฯ และปีนี้บริษัทคาดว่าจะสามารถทำเบี้ยรับรวมเติบโตได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ ช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา บมจ.เจนเนอราลี่ฯมีเบี้ยรับรวมโต 40% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยช่องทางขายหลักมาจากแบงก์แอสชัวรันซ์สัดส่วน 40%


อานิสงส์จากการแข่งขันในธุรกิจประกันที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดแบบประกันใหม่ ๆ มาเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะป้อนโปรดักต์เจาะเฉพาะกลุ่มเพื่อหวังจะดึงเบี้ยไปถึงฝั่งในปีนี้