คอลัมน์ Pawoot.com โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ
เคยไหมครับเวลาขายสินค้าออนไลน์บางวันก็มีคนเข้ามาดูเยอะบ้าง น้อยบ้าง แล้วทำยังไงถึงให้มีคนเข้ามาดูมากขึ้นตลอดโดยเสียเงินน้อยที่สุด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
การโฆษณาใน Social Media โดยเฉพาะเฟซบุ๊กจะได้ผลลัพธ์มากที่สุดเมื่อเทียบกับในโซเชียลมีเดียอื่น เพราะจำนวนผู้ใช้งานต่อเดือนมีมากถึง 1.5 พันล้านคน ซึ่งสามารถเลือกเป้าหมายได้ว่าจะขายกับใคร เพียงแค่มีเงิน 30 กว่าบาทก็เริ่มต้นได้แล้ว มาดูขั้นตอนต่าง ๆ กันเลย
1.กำหนดเป้าหมายทางการตลาด
ในหน้าแรกของเฟซบุ๊กเข้าไปที่สร้างโฆษณา>ใส่ชื่อแคมเปญ>เลือกวัตถุประสงค์ทางการตลาด หลังจากนั้น ก็ใส่ชื่อแคมเปญและเลือกวัตถุประสงค์การตลาด
การเลือกวัตถุประสงค์ทางการตลาด เลือกจาก 3 วัตถุประสงค์ ซึ่งมี 3 ระดับตามความต้องการในการสื่อสาร ได้แก่ การรับรู้ คือทำให้คนรู้จักสินค้าเรามากขึ้น ถัดมา การพิจารณา คือหลังจากที่รู้จักแล้วนำสินค้าเรามาพิจารณาและหาข้อมูลเพิ่มเติม และคอนเวอร์ชั่น คือทำให้สนใจและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ โดยดูคำอธิบายของแต่ละวัตถุประสงค์เพิ่มเติมได้โดยเอาเมาส์ไปวางที่เครื่องหมาย
2.กำหนดกลุ่มลูกค้าที่จะสื่อสารด้วย
ยิ่งเรากำหนดได้เฉพาะกลุ่มมากเท่าไร ยิ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจริงได้มากเท่านั้น ซึ่งจำนวนลูกค้าที่เข้าถึงได้ควรมีประมาณ 50,000-100,000 คน
ต่อไปนี้คือหัวข้อในการทำให้กลุ่มลูกค้าเราแคบลง
ความสนใจ : เวลาเลือกความสนใจของกลุ่มลูกค้าควรหลีกเลี่ยงความสนใจทั่วไปที่ทุกคนสนใจเหมือนกัน แต่ควรเลือกสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนของกลุ่มลูกค้า เช่น ชอบสินค้าแบรนด์ เพลง หนังสือ รวมถึงเฟซบุ๊กเพจ
ที่อยู่ : เลือกที่อยู่ของกลุ่มลูกค้าให้จำกัดลงโดยระบุประเทศ, เขต, แขวง, หรือรหัสไปรษณีย์
ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ เช่น อายุ เพศ ภาษา หรือใส่พฤติกรรมเฉพาะของกลุ่มลูกค้าได้
3.ระบุงบประมาณและตารางเวลา
ในงบประมาณต้องดูว่าเราจะจ่ายเท่าไรในระยะเวลาอย่างไร มีให้เลือกรายวันกับตลอดชีพ ถ้าระยะเวลารายวันต้องลงเงินในปริมาณเฉลี่ยต่อวันในจำนวนเงินเท่ากันที่คิดว่าจะจ่าย หรือตลอดไปคือการระบุจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องจ่าย จากนั้นก็ระบุวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของการทำโฆษณา
4.ออกแบบโฆษณาของคุณ
เลือกสื่อที่จะใช้สื่อสารกับลูกค้าเช่น รูปภาพเดี่ยว สไลด์รูปภาพ หรือวิดีโอ ถ้าในส่วนรูปภาพควรมีขนาด 1,200 *628 พิกเซล และเราสามารถเลือกรูปภาพเองจากไฟล์ของเราหรือทางเฟซบุ๊กกำหนดให้ก็ได้ โดยรูปภาพที่เราโพสเป็นส่วนสำคัญในการที่คนจะหยุดเลื่อนและเปลี่ยนมาคลิกแอดของเรา ส่วนหัวข้อเรื่องควรเป็นข้อความที่จับความสนใจของผู้คนได้ และบอกได้ว่านี่คือโฆษณาเกี่ยวกับอะไร ซึ่งไม่ควรเกิน 25 ตัวอักษร และข้อความจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับโฆษณาว่าคุณจะสื่ออะไรซึ่งไม่ควรเกิน 90 ตัวอักษร สำหรับปุ่ม call to action คือปุ่มที่เมื่อคลิกแล้วจะนำพาไปสู่อีกเว็บไซต์ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าจะเป็น action ไหน เช่น “Buy now”, “subscribe”, “contact us”
ขณะที่คำอธิบายลิงก์จะบอกที่อยู่ของลิงก์ และคำอธิบายเนื้อหาในลิงก์นั้น โดยมีหน้าสำหรับการใส่ที่อยู่ URL, ชื่อที่แสดง URL และหัวข้อเรื่อง รวมถึงรายละเอียดการจ่ายเงินให้เขียนให้ครบถ้วน นอกจากนี้ เราสามารถดูมุมมองการใช้งานในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น ในจอเดสก์ทอป จอสมาร์ทโฟน รวมถึงในหน้าแรกของโปรแกรม Instagram
5.ทำความเข้าใจกับรายงานผลโฆษณาในเฟซบุ๊ก
เลือกเฉพาะผลที่เราวัดได้ เช่น จำนวนลูกค้าเข้ามาเท่าไร, จำนวนการคลิก รายละเอียดลูกค้าว่าเพศอะไร อายุเท่าไร อยู่ไหน ใช้อุปกรณ์ใดในการเข้าดู
ถือว่าไม่ยากเลย ลองไปทำกันดูแล้วอย่าลืมวัดผลลัพธ์ เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้ใช้เม็ดเงินโฆษณาได้อย่างคุ้มค่านะครับ
