
ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ อยู่เมืองไทย 2 สัปดาห์ เดินสายทำกิจกรรมเพื่อสังคม หลังร่วมงานวันพ่อ 5 ธันวาคม 66
การกลับเมืองไทยครั้งที่ 2 ในรอบ 1 ปี ของ ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ โอรสคนที่ 2 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หลังจากกลับเมืองไทยครั้งแรกเมื่อ 7 สิงหาคม 2566
ท่านอ้น ถึงประเทศไทยวันที่ 4 ธันวาคม 2566 ส่งข้อความแรกถึงคนไทยเป็นประโยคหนึ่งในเพลง “ทหารอากาศขาดรัก” ระบุว่า “ไกลสุดสายตา ขอบฟ้าสีคราม แผ่นดินสยาม”
เช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ท่านอ้น ร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทำกิจกรรมวันพ่อ ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9
จากนั้นเดินสายทำกิจกรรมเพื่อสังคม และใช้ชีวิต รับประทานอาหารร้านดัง เช่น ร้านเจ๊ไฝ โดยโพสต์เฟซบุ๊ก Vacharaesorn Vivacharawongse ระบุเมื่อ 7 ธันวาคม 2566 ว่า
“ได้โอกาสมาทานไข่เจียวปูที่ร้านของเจ๊ไฝ แกเป็นคนน่ารักมาก อาหารทุกจานอร่อยสมชื่อ สมกับที่ได้รับความชื่นชมและ Michelin Star นอกจากเลี้ยงข้าวพวกเราจนอิ่มหนำสำราญแล้ว แกยังมอบชุดบะหมี่สำเร็จรูปรสเจ๊ไฝให้กับพวกเราอีก#softpower”
วันเดียวกันนั้น ท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เดินทางไปที่ ศาลาตันตยาเขมานิเวศน์ วัดสระแก้ว ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก โรงเรียนวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ที่ดูแลเด็กกำพร้า
ในงานนี้ ท่านอ้น พูดกับเด็ก ๆ ว่า “วันนี้รู้สึกชื่นใจมาก ที่เห็นน้อง ๆ ทุกคนมานั่งทานข้าวด้วยกัน ได้เห็นรอยยิ้มของน้อง ๆ ได้ฟังเพลงทั้งเพลงสากลเพลงไทย ก็ทำให้ชื่นใจมาก รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง ที่เยาวชนไทยยังมีประสิทธิภาพ มีความมุ่งมั่น ที่จะใฝ่ในสิ่งที่ดี ใฝ่ในอนาคตที่มีแต่ความสำเร็จสำหรับตัวเอง”
ท่านอ้น ให้กำลังใจเด็ก ๆ กำพร้าว่า “พวกเราทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดในสถานการณ์ไหน เราก็ต้องประสบในทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี บางคนเกิดมาโดยที่ไม่มีโอกาสอะไร แต่สิ่งที่เราทำได้คือเรามุ่งมั่น เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ แล้วเราก็จะทำให้สิ่งที่เป็นอุปสรรคกลายเป็นความสำเร็จได้”
“ขอให้น้อง ๆ อย่าอายว่า เราผ่านความยากลำบากอะไรมาบ้าง แต่ขอให้ภูมิใจว่าเราผ่านความยากลำบากมาแล้ว แต่เราสร้างโอกาสของตัวเองได้ เราเชื่อในโลกที่มีความเท่าเทียม มีอะไรที่เราช่วยเหลือพี่น้องกันได้ ขอให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน จับมือร่วมไปด้วยกัน ขอให้น้อง ๆ ทุกคนจงมีความภาคภูมิใจว่า ถึงเราจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ต้องต่อสู้ก็เป็นสิ่งที่เราผ่านพ้นไปได้”
“อย่าอายว่าเรามาจากที่ลำบาก แต่ขอให้ภูมิใจ ว่าเราเผชิญสิ่งที่ลำบากมาแล้ว ยังทำให้ตัวเองมีอนาคตได้ ในอนาคตประเทศไทยก็คือของน้อง ๆ ทุกคน ทุกอย่างที่รุ่นพี่ป้าน้าอาหรือแม้แต่พี่ทำไป หากไม่ได้ส่งต่อให้น้องก็ไม่มีความหมาย เพราะฉะนั้นน้อง ๆ ทุกคนในห้องนี้ ก็คือสมบัติอันล้ำค่าของพวกเราทุกคน”
“ก็ขออวยพรให้น้อง ๆ ทุกคนประสบผลสำเร็จ ดูแลคุณพ่อคุณแม่เชื่อฟังครูบาอาจารย์ และที่สำคัญที่สุดเชื่อในตัวเอง ขอให้ใช้หัวคิดและฟังผู้ใหญ่ ฟังคำแนะนำของครูบาอาจารย์และเอามาคิดเอง และให้เชื่อมั่นว่าตัวเองทำอะไรได้ โชคดีนะครับน้อง ๆ วันนี้ดีใจมากที่ได้มาเห็นทุกคน”
ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคปีนี้ เป็นการกลับเมืองไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี ของท่านอ้น นับเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจอย่างสูงจากประชาชนคนไทย
ปรากฏภาพท่านอ้น นั่งรถตุ๊กตุ๊ก เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ไปเยี่ยมเด็กกำพร้า ที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม นั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส และเดินทางไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้านย่านสยามเซ็นเตอร์ เดินดินข้ามสะพานลอย หย่อนเงินให้ขอทานริมถนน
การกลับเมืองไทยครั้งนี้ แม้มีคนไปต้อนรับตามสถานที่ต่าง ๆ ในแต่ละวัน แต่ท่านอ้น บอกกับสื่อที่ติดตามทำข่าวว่า ไม่ขอพูดหรือสัมภาษณ์ใด ๆ เป็นการเดินทางท่องเที่ยว และจะไปต่างจังหวัดแบบเรียบง่ายตลอด 2 สัปดาห์
ท่านอ้น ชิมไข่เจียวปู เจ๊ไฝ อร่อยสมชื่อ พร้อมติดแฮชแท็กซอฟต์พาวเวอร์