แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากดำเนินเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ น่าจะทำให้จำนวนเจ้าของดีลเลอร์จาก 125 ราย ลดจำนวนลงเหลือ 60-70 ราย แต่จำนวนโชว์รูมและศูนย์บริการซึ่งมีราว ๆ 200 แห่งทั่วประเทศ จะคงไว้ใกล้เคียงของเดิม โดยมีบางพื้นที่ลดลงและบางพื้นที่เพิ่มขึ้น
“การจัดแถวครั้งนี้เป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของดีลเลอร์ทุกรายบริษัทแม่ไม่ได้เน้นแค่ตัวเลขการขายเพียงอย่างเดียวนโยบายนิสสันซึ่งเป็นโกลบอลโพลีซีต้องวัดทั้งหมดทั้งดัชนีความพึงพอใจขณะซื้อ หรือ SSI และดัชนีความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อบริการหลังการขาย หรือ CSI ซึ่งตอนนี้มีการเรียกดีลเลอร์หลายรายคุยเพื่อให้รับทราบแนวทาง ซึ่งมีทั้งพอใจและไม่เห็นด้วย บางรายตอบรับพร้อมลงทุนต่อ บางรายไม่พร้อมลงทุนถอดใจไปบ้างก็มี” ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นิสสันเข้มงวดกับการจัดระเบียบดีลเลอร์มาพักใหญ่ ก่อนหน้านี้มีการบอกเลิกสัญญา 4 ตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ บริษัท สยามนิสสัน อีสเทิร์น 2002 จำกัด (ฉะเชิงเทรา), บริษัท สยามนิสสัน โอเรียน 2003 จำกัด (นครนายก), บริษัท สิม ออโต้ นครปฐมซิตี้ จำกัด (นครปฐม), บริษัท สิม ออโต เทรดดิ้ง จำกัด (ปทุมธานี) เนื่องจากขาดคุณสมบัติเป็นตัวแทนจำหน่าย
ขณะที่ในองค์กรได้ปรับโครงสร้างบริหารงานครั้งใหญ่ เพื่อเดินสู่เป้าหมายการเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้าภายในปี 2561 และตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 2 ดิจิต ภายในปี 2018 พร้อมทั้งระบุชัดเจนว่าต้องให้ความสำคัญกับโชว์รูมและศูนย์บริการซึ่งใกล้ชิดกับลูกค้าทั้งงานขายและเซอร์วิสมีการทำRelocationหาทำเลที่เข้าถึงและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้มากขึ้น และ Renovation เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของโชว์รูมและศูนย์บริการให้มีความทันสมัย รวมถึงปรับเปลี่ยนประธานคนใหม่ นายอัลตวน บาร์เตส ทดแทน นายคะซุทากะ นัมบุ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวตัวแทนจำหน่ายในเขต ภาคอีสานกล่าวเสริมว่า นโยบายนี้น่าจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายบางรายที่มีจำนวนโชว์รูมเยอะ แต่ดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง ไม่ผ่านมาตรฐานบริษัทแม่ ต้องยุบเลิกโชว์รูมในบางพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายเจ้าอื่นที่มีศักยภาพมากกว่าเข้าทำหน้าที่แทน
“ตัวอย่างที่ชัดเจนตอนนี้เช่นกลุ่มพระนคร2000 ที่ถือว่าเป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่อาจต้องยุบโชว์รูมบางพื้นที่ เช่นเดียวกับโชว์รูมนิสสัน วังน้อย ที่ไม่สามารถบริหารงานต่อได้ก็ตัดสินใจยุติบทบาทไป”
ปัจจุบันดีลเลอร์นิสสันที่มียอดขายสูงมี 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มพระนคร 2000 ของนายประวิตร พันธ์สายเชื้อ มี 11 โชว์รูม มียอดขายต่อเดือนราว ๆ 600 คัน รองลงมาคือกลุ่มสยามกลการของ ดร.พรเทพ พรประภา มี 13 โชว์รูม ขายเดือนละ 300 คัน และกลุ่มนิสสัน สมุทรสาคร มี 3-4 โชว์รูม ด้วยยอดขาย 200 คันต่อเดือน
“เท่าที่ทราบ กลุ่มพระนคร 2000 น่าจะมีหลายพื้นที่ไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น ภูเก็ต, ชัยนาท, ยโสธร ส่วนโซนภาคตะวันออกเลียบทะเล เช่น ระยอง ชลบุรี อาจได้ขยายเพิ่ม ขณะที่กลุ่มสมุทรสาคร อาจจะมีสักหนึ่งหรือสองแห่งที่ไม่ผ่านเกณฑ์ นอกจากนี้บางจังหวัดที่มีดีลเลอร์ 2 เจ้า คาดว่าจะเลือกพิจารณาเพียงรายเดียวที่แข็งแรงจริง ๆ ปัญหายุ่งยากคือโซน กทม. ซึ่งละเอียดอ่อน โดยเฉพาะราคาที่ดินคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร”
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สอบถามเรื่องนี้กับ นายธรรมนูญ สังขวรรณ ผู้จัดการทั่วไป สายงานพัฒนาเครือข่าย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ให้คำตอบใด ๆ กล่าวสั้น ๆ ว่า นิสสันมีส่วนงาน พี.อาร์.ให้สอบถามกันเอง
ในขณะที่ส่วนประชาสัมพันธ์กล่าวเสริมว่า อยู่ระหว่างดูแลความเรียบร้อยและเสริมสร้างความแข็งแกร่งตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีทั้งผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนใหม่ และผู้จำหน่ายรายเดิมที่พร้อมลงทุนต่อ และบางรายที่ตัดสินใจไม่ไปต่อ เรื่องนี้ต้องศึกษาให้ละเอียดทั้งข้อดีและข้อเสีย รายละเอียดอื่น ๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ขณะที่ตัวแทนจำหน่ายบางรายยอมรับกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันในแง่ยอดขายรถยนต์นิสสัน ปีนี้เทียบกับปีก่อนมียอดขายดีขึ้นอย่างชัดเจน ไม่ใช่เพราะสภาพเศรษฐกิจดี หรือตลาดรถยนต์ขยายตัว เพียงแต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ยอดขายดีขึ้นมาจากต้นทุนซื้อรถที่เท่ากัน ไม่เหลื่อมล้ำเหมือนเมื่อก่อน
ในขณะที่ดีลเลอร์อีกหลายกลุ่มซึ่งไม่พอใจหลักเกณฑ์ใหม่ ก็กำลังปรึกษาสำนักงานกฎหมายเพื่อหาลู่ทางต่อสู้ หากโดนให้ยุบหรือยกเลิกสิทธิ์แบบไม่เป็นธรรม และบางรายก็พร้อมสวิตช์ไปแบรนด์อื่น ๆ