MGC-ASIA โชว์กำไร Q2/2567 พุ่ง 54 ล้าน ชี้ครึ่งปีหลังมีปัจจัยหนุนเพียบ

MGC-ASIA โชว์กำไรไตรมาส 2 ปี 2567 เพิ่มขึ้น 54 ล้านบาท ชี้รถ EV-ALPHA X-นายหน้าประกัยภัย หนุนธุรกิจเติบโต ลั่นครึ่งปีหลัง 2567 มีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตเพียบ

วันที่ 14 สิงหาคม 2567 ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) เติบโตขึ้นทำรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท โตขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 17% ขณะที่กำไรจากกิจกรรมดำเนินงานเพิ่มขึ้น 54 ล้านบาทโตขึ้น 50% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ โดยรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโต มาจากการรับรู้รายได้การส่งมอบรถยนต์ที่จองในงานมอเตอร์โชว์ 2024

“เฉพาะแบรนด์รถอีวี XPENG ผลตอบรับดีมาก เรายังได้เร่งขยายธุรกิจ รับดีมานด์ที่พุ่งขึ้น มีการเซ็นสัญญาตัวแทนจำหน่าย 12 ราย พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบ XPENG หัวหมาก รวมถึงศูนย์บริการ ZEEKR ศรีนครินทร์และวิภาวดี เดินหน้าขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร จับมือพันธมิตรศึกษาความเป็นไปได้ธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV ขณะธุรกิจให้บริการด้านการเงินครบวงจร ALPHA X-Wealth Lending เริ่มมีผลกำไรจากการดำเนินงาน และธุรกิจประกันภัย HOWDEN MAXI ยังช่วยหนุนให้ธุรกิจเติบโต”

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ

1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทมีรถรอส่งมอบทั้งสิ้น 1,235 คัน และเรือยอชต์ AZIMUT รอส่งมอบ 1 ลำ ยังได้ขยายบริการเช่าเหมาลำ ภายใต้แบรนด์ AZIMUT และ CHRIS-CRAFT เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว

2) ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์ มีศักยภาพเติบโตตามยอดจำหน่ายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และยังได้รับสิทธิในการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

3) ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ โดยมุ่งเน้น 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และให้ความสำคัญกับลูกค้า, พัฒนานวัตกรรมผ่านแอปพลิเคชั่น, ร่วมมือกับพันธมิตร, ขยายบริการรถยนต์ไฟฟ้าในหัวเมืองใหญ่ และเพิ่มรถยนต์พรีเมี่ยม รวมถึงรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า

4) กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ อาทิ ALPHA X ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร มีผลการดำเนินงานเป็นกำไรสุทธิก่อนตั้งสำรองเป็นไตรมาสแรก จากการเพิ่มขึ้นของพอร์ตสินเชื่อย่างต่อเนื่อง และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งเติบโตจากการขยายธุรกิจ Wealth Lending ให้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานได้ดี ขณะที่ ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตอบรับกระแส ESG และเมกะเทรนด์ต่าง ๆ โดยมีรายได้สุทธิเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่วางไว้ 3% มั่นใจว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายการเติบโตที่คาดหวังไว้ประมาณ 7% จากปีก่อน

“ล่าสุดบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ยังได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ PRIMOBIUS บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลแบตเตอรี่จากเยอรมนีจัดตั้งธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย นำแบตเตอรี่รถ EV ที่หมดอายุการใช้งานกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรใหม่และลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน”