‘หมอสุรัตน์’ อธิบายทำไมแก่แล้วถึงแฮงง่าย ?

เหล้า-เบียร์
ภาพจาก : freepik

แพทย์ด้านสมองและระบบประสาทระบุสาเหตุ ‘เมาค้าง’ และแนวทางป้องกันหรือลดผลกระทบสำหรับผู้สูงอายุ 

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท อธิบายผ่านเพจเฟซบุ๊ก “สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์” ในประเด็นเหตุใดเมื่ออายุมากขึ้นดื่มแอลกอฮอล์แล้วมีอาการเมาค้างหรือแฮงได้ง่าย

1.การเผาผลาญแอลกอฮอล์ที่ลดลง

การทำงานของตับลดลง : ความสามารถของตับในการผลิตเอนไซม์ที่ใช้ในการเผาผลาญแอลกอฮอล์ เช่น Alcohol Dehydrogenase (ADH) และ Aldehyde Dehydrogenase (ALDH) ลดลงตามอายุ ทำให้แอลกอฮอล์และสารพิษอย่างอะซีทาลดีไฮด์ (Acetaldehyde) คงค้างในกระแสเลือดนานขึ้น ส่งผลให้อาการเมาค้างรุนแรงขึ้น

2.ปริมาณน้ำในร่างกายลดลง

เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะมีปริมาณน้ำลดลง ทำให้แอลกอฮอล์ไม่ถูกเจือจางในร่างกายเท่ากับในวัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือดสูงขึ้น แม้ดื่มในปริมาณน้อย

ADVERTISMENT

3.การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับ

ผู้สูงอายุมักมีการนอนหลับที่ยากและถูกรบกวนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากโครงสร้างการนอนหลับเปลี่ยนไปตามอายุ เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ที่รบกวนการนอนหลับ REM จะยิ่งทำให้อาการเหนื่อยล้าและการนอนหลับไม่สนิทรุนแรงขึ้นในช่วงเมาค้าง

ADVERTISMENT

4.ความไวต่อแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้น

สมองของผู้สูงอายุมีความไวต่อผลกระทบของแอลกอฮอล์มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้อาการปวดหัว อาการมึนงง และการเคลื่อนไหวที่ไม่สัมพันธ์กันเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น การลดลงของการทำงานของสารสื่อประสาท เช่น GABA และ Dopamine ทำให้การฟื้นตัวจากการดื่มแอลกอฮอล์ยากขึ้น

เอาหละ แล้วถ้าเราเริ่มแก่ เวลาดื่มทำอย่างไร ?

วิธีลดอาการเมาค้างในผู้สูงอายุ

1.ดื่มช้า ๆ : เพื่อให้ร่างกายมีเวลาย่อยแอลกอฮอล์

2.ดื่มน้ำให้เพียงพอ : ดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังการดื่มแอลกอฮอล์

3.จำกัดปริมาณการดื่ม : ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่น้อยลง

4.หลีกเลี่ยงการดื่มตอนท้องว่าง : การรับประทานอาหารจะช่วยชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์

5.เลือกเครื่องดื่มเบา : เลือกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสารคอนเจเนอร์ (Congeners) ซึ่งพบในเครื่องดื่มสีเข้ม เช่น วิสกี้และบรั่นดี

“อย่าห้าวนะจ๊ะ อย่าบอกว่าใจหนุ่ม ร่างกายมันฟ้อง ดื่มหนักนอนเดี้ยงไป 2 วัน เจอมาแล้ว”