
เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย นักลงทุนเฝ้ารอการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงรอความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่
ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/01) ที่ระดับ 34.47/49 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/01) ที่ระดับ 34.43/45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าในช่วงคืนวันศุกร์ หลังมีการเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยตัวเลขการก่อสร้างบ้านเดี่ยวในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.8% แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน สู่ระดับ 1.499 ล้านยูนิตในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567 และสูงกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ล้านยูนิต จากระดับ 1.29 ล้านยูนิตในเดือน พ.ย. โดยตัวเลขยังคงพุ่งขึ้นในเดือน ธ.ค. แม้ว่าความต้องการอาจถูกจำกัด จากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่เพิ่มขึ้นและปริมณบ้านใหม่ที่มีมากเกินไปก็ตาม
ส่วนรายงานอีกฉบับเปิดเผยให้เห็นว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือน ธ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือน พ.ย. และเมื่อเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน ธ.ค.
ทั้งนี้ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค ขณะที่การผลิตในภาคเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 1.8% ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนการผลิตของภาคโรงงานเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน พ.ย.และเมื่อเทียบรายปี การผลิตของภาคโรงงานทรงตัวในเดือน ธ.ค.
อย่างไรก็ตามระหว่างวันดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลง จากการที่นักลงทุนบางส่วนได้มีการขายทำกำไร ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในคืนวันนี้ (20/01) รวมถึงรอความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ทั้งนี้ในวันนี้เป็นวันหยุดทำการของตลาดเงินในสหรัฐ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ด้านปัจจัยภายในประเทศ ระหว่างวันค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในเชิงแข็งค่า หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวผันผวน และทยอยแข็งค่าขึ้น จากแนวโน้มการคาดการณ์โอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ซึ่งภายหลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟอร์ที่ชะลอลงของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกลับมาคาดว่ามีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
อย่างไรก็ดี ปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนรอติดตามอยู่ที่การแถลงนโยบายของนายทรัมป์หลังพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งว่าจะมีมาตรการใดออกมาบ้าง โดยเฉพาะมาตรการการกีดกันทางการค้าซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินสกุลในภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทได้
ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวกรอบระหว่าง 34.29-48 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 34.27/29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/10) ที่ระดับ 1.0278/80 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/01) ที่ระดับ 1.0295/97 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยในระหว่างวันค่าเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่อง จากการที่ตลาดจับตานโยบายของทรัมป์หลังการสาบานตนในค่ำคืนนี้
ระหว่างวันเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ธ.ค. ลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือน พ.ย. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวไม่ส่งต่อทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินยูโรมากนัก ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวกรอบระหว่าง 1.0278-1.0317 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0314/15 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร
สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (20/01) ที่ระดับ 156.28/30 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (17/01) ที่ระดับ 155.76/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างวันญี่ปุ่นมีการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมในเดือน พ.ย. ลดลง 2.2% จากที่ลดลง 2.3% ในเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 3.4% จากเดือน ต.ค. และเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์ได้ คาดการณ์ไว้ว่าอาจลดลง 0.4% นับเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของการใช้จ่ายด้านการลงทุนก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะพิจารณาอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้
ล่าสุดนักลงทุนมีการคาดการณ์ว่าทาง BOJ จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 155.69-156.28 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 156.23/24 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. จาก Conference Board (22/1) จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (23/1) ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือน ม.ค. จาก S&P Global (24/1) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือน ม.ค. จาก S&P Global (24/1) ยอดขายบ้านมือสองเดือน ธ.ค. (24/1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือน ม.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (24/1)
สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -6.80/-6.65 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทอยู่ที่ -5.10/-3.15 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ