
“นายกรัฐมนตรี” ยอมรับเอกชนคือ 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศ เปิดแผน 4 GO จับมือทำงานร่วมเอกชน สางกฎหมายที่ไม่เอื้อให้ SMEs เร่งทำกฎหมาย AI เพราะคืออนาคตของทุกอุตสาหกรรม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในฐานะประธานเปิดงาน งาน FTI EXPO 2025 : EMPOWERING THAI INDUSTRY, ELEVATING THAILAND’S FUTURE ในหัวข้อ “จุดประกายอุตสาหกรรมไทย สร้างเศรษฐกิจใหม่นำประเทศสู่ความยั่งยืน” ว่า ภาคอุตสาหกรรมเป็น 1 ใน 3 ส่วนที่ช่วยดัน GDP ของประเทศ ภาคเอกชนคือผู้ที่ลงทุนลงแรงในการหาข้อมูลการผลิตพัฒนาคนในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้ไปต่อได้ไกลขึ้น และให้ทั่วโลกรู้ว่าจริง ๆ แล้วหลังโควิด-19 เป็นต้นมาไทยไม่ได้หายไปไหน ยังคงแข็งแรงเหมือนเดิม และพร้อมที่จะเป็นแหล่งของการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและผลิตคนที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกมาก
ในขณะที่เอกชนและรัฐบาลทำงานร่วมกัน จึงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถต่อยอดอุตสาหกรรมของไทยให้ไปต่อได้อย่างเข้มแข็ง จากนโยบายของรัฐที่ได้วางนโยบายยุทธศาสตร์และพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในหลายมิติ ทั้งมุ่งเร่งการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมแห่งอนาคตพัฒนาเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ หรืออาจจะเป็นการร่วมกันสร้าง Ecosystem เพื่อเอื้อต่อการพัฒนา และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และการพัฒนาคนไปพร้อมกัน
จึงเป็นการยกระดับฐานการผลิตเพื่อให้การผลิตของไทยมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับต่อทั่วโลก รวมไปถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งต่อสินค้าและบริการจะสามารถสร้างโอกาสและสร้างความแตกต่างให้กับประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทยจะต้องมีความเข้มข้นและได้มาตรฐาน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้พลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้
สำหรับ SMEs ของไทยมีสัดส่วนถึง 75% รัฐบาลจึงมีนโยบายและหลักในการพัฒนา ซึ่งหากเป็นกฎกระทรวงรัฐมนตรีก็สามารถแก้ได้เลย กฎหมายหรือประกาศใดในระดับรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงสามารถปรับหรือยกเลิกเพื่อจะเปิดช่องทางให้ SMEs ก็สามารถทำได้เลย เพื่อเพิ่มโอกาสเพิ่มการลงทุน
ในส่วนของรัฐเอง จะทำ 4 G0 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมไทย คื 1.Go Digital & AI ที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของระบบโครงสร้างพื้นฐานเรื่องดิจิทัล เพื่อให้ดึงดูดการลงทุนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน AI ที่จะเสร็จเร็ว ๆ นี้ 2.Go Innovation ที่จะดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมในอนาคตเข้ามา 3.GO Green เป็นพลังงานสีเขียวทั่วโลกต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญและอีกหนึ่งตัวแปรที่จะสร้างโอกาสและเป็นความท้าทายของประเทศ 4.Go Global การต่อยอดขยายข้อตกลงทางการค้า นอกจาก EFTA แล้ว เตรียมขยาย FTA ไป UAE และภูฏาน
“วันนี้เรามาถึงยุคที่ว่าเวลาหมุนไปเรื่อย ๆ เดินไปเรื่อย ๆ เราคงไม่สามารถที่จะรอได้ ประเทศไทยมีคนที่มีศักยภาพอีกมาก ซึ่งเราพร้อมที่จะสนับสนุนคนไทยเพิ่มศักยภาพ เพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น มั่นใจว่าเมื่อรัฐบาลและเอกชนทำงานร่วมกันอย่างนี้ จะสามารถพัฒนาคน พัฒนาอุตสาหกรรมให้เติบโตไปพร้อมกันและเข้มแข็ง พร้อมเชื่อว่าอุตสาหกรรมเข้มแข็งแบบนี้ ในอนาคตการเตรียมพร้อมสำหรับคนรุ่นใหม่ เจเนอเรชั่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถเรื่องอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น จะเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างแน่นอน”
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า 4 GO ของเอกชนจะมาสอดรับกับ 4 Go ที่รัฐบาลทำให้เรา ซึ่งปัจจุบันเราท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ ตอกย้ำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ที่มีความผันผวนและซับซ้อนมากขึ้น ภาคอุตสาหกรรมจึงต้องมีการพัฒนาและปรับตัวให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าและเทคโนโลยี ตลอดจนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่คาดการณ์ได้ยากและมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นทุกปี ทั้งหมดนี้คือ ความท้าทายที่ประเทศไทยจะต้องรวมพลังกัน พลิกความท้าทายให้เป็นโอกาสในการพัฒนาประเทศ เร่งเดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ต่อยอดการพัฒนาของภาคการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการไทย
ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษา เพื่อสร้างกำลังคนรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมทั้งวางยุทธศาสตร์ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเพื่อแสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงศักยภาพและความก้าวหน้าของภาคอุตสาหกรรมไทย จึงทำให้การจัดงาน FTI EXPO 2025 เกิดขึ้น
โดยรวมพลังความร่วมมือจากกลุ่ม 47 กลุ่มอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด สถาบันภายใต้การกำกับดูแลของ ส.อ.ท. หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานระหว่างประเทศ และสถาบันการศึกษา ภายใต้นโยบาย ONE FTI (ONE Vision, ONE Team, ONE Goal) ในการวางรากฐานและขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย รวมทั้งยกระดับ SMEs ไปสู่ Smart SMEs ด้วยแนวทาง 4GO ซึ่งประกอบด้วย GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global และ GO Green ที่ครอบคลุมในเรื่องของดิจิทัล นวัตกรรม การขยายตลาดต่างประเทศ และการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน
งาน FTI EXPO 2025 ในครั้งนี้ จะเป็นเวทีในการขยายช่องทางการตลาดของสินค้า บริการและนวัตกรรมฝีมือคนไทยผ่านสินค้าที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand (MiT) ผลักดันให้เกิดการค้า การลงทุนเพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาดสากล ซึ่งจะทำให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน