
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ประเมินหุ้นไทย แกว่งตัวผันผวน แนวรับ 1,150 จุด แนวต้าน 1,170 จุด อาจมีรีบาวนด์สลับขึ้นได้บ้างแต่กรอบบนจำกัด นโยบายขึ้นกำแพงภาษียังกดดัน จับตา กกร.เข้าหารือนายกฯ ในช่วงบ่ายวันนี้ถึงมาตรการรับมือนโยบายทรัมป์ 2.0
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด รายงานว่า คาด SET แกว่งตัว อาจมีรีบาวนด์สลับขึ้นได้บ้าง แต่กรอบบนจำกัด แม้ประเด็นบวกจากรัสเซีย-ยูเครนใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง 30 วัน แต่ประเด็นลบจากการขึ้นภาษียังมีน้ำหนักกดดันมากกว่าหลังจากแคนาดาและ EU ขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 25% วานนี้ ประเมินแนวรับที่ 1,150-1,140 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,170-1,180 จุด
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
CPI สหรัฐ ก.พ. ขยายตัว 2.8% YOY ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ EIA เผยสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าตลาดคาด บ่งชี้ความต้องการใช้น้ำมันยังแข็งแกร่ง
• ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.พ. เพิ่มขึ้นสู่ 93.4 หนุนจาก กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย, ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่เติบโตต่อเนื่อง
• บอร์ด กสทช.ชะลอประมูลคลื่นและทบทวนวิธีประมูลและราคาขั้นต่ำ เพื่อป้องกันการสมยอมราคาหลังเหลือผู้ให้บริการเพียง 2 ราย คาดว่าจะสามารถจัดการประมูลได้ทันกรอบเวลาเดิมในวันที่ 17-18 พ.ค. 2568
• แอตต้าคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 จะทำได้ 37 ล้านคน เทียบเท่าปีก่อนที่ 35.54 ล้านคน ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่มีปัจจัยลบอยู่มาก ทำให้จำนวนเป้าหมายของรัฐบาลที่ 39 ล้านคน ยากเกินไป
• ติดตาม กกร.เข้าหารือนายกฯ ในช่วงบ่ายวันนี้ถึงมาตรการรับมือนโยบายทรัมป์ 2.0 และเสนอกำหนดสัดส่วนสินค้าผลิตจากผู้ผลิตไทยเพิ่มเป็น 50% จาก 15% และป้องกันสินค้าราคาถูกจากจีนทะลักเข้าไทย
• ตลท.เผยประเภทสินทรัพย์ที่ Thai ESGX ลงทุนได้จะต้องเข้าเกณฑ์ 1 ใน 3 ข้อ ต่อไปนี้ 1) มี SETESG Rating หรือเรตติ้งที่สากลยอมรับ เช่น FTSE หรือ MSCI, 2) เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และได้การรับรองจาก อบก. หรือ 3) มีการสำรวจการกำกับดูแลกิจการ (CGR) เกิน 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูลเกิน 85% และได้เผย 14 บจ. ที่ SETESG Rating เป็น Nonrating แต่เข้าเกณฑ์ข้างต้น AYUD BCP CHG CPNREIT ERW GLAND METCO PPP RCL SUSCO TIDLOR TMI TRP TRU
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน
มอง SET มีสัญญาณฟื้นตัวได้บ้าง หนุนจากความคาดหวังจากปัจจัยภายนอกและรัฐบาลไทยมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1.หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน เลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายกองทุน โดย 1) กำไรปี 2568 คาดเติบโต YOY 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีความสามารถการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Int. Cov. Ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) ศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาด Div. Yield อย่างน้อย 2% และ 5) SETESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ CPALL BDMS MTC MINT BTG
2.หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปี และ SETESG Rating ระดับ A-AAA 2) คาดจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว ยังให้ Div. Yield เกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ผลประกอบการปี 2568 ยังแข็งแกร่งและยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
3.หุ้น Earnings Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนกำไร 1Q68 ที่คาดจะเติบโต YOY และ QOQ และมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ เลือก ADVANC TRUE AMATA TIDLOR MTC AU HTC
4.Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำเก็งกำไรสำหรับหุ้นที่คาดได้ Sentiment บวกจากงาน Opp. Day ซึ่งคาดจะมีโทนประชุมเป็นบวกในสัปดาห์นี้ และเราดูแลอยู่อย่าง AU TIDLOR BTG PT