
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ผนึกหอการค้า-สภาอุตฯ นนทบุรี โชว์ซอฟต์พาวเวอร์ จัดงาน Best & Green of Non 2025 ระหว่าง 26-30 พฤษภาคม 2568 ณ อาคาร B ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ระดมของดีเมืองนนท์ ทั้งเกษตร SMEs อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ชูภาพลักษณ์เมืองน่าอยู่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นางระวีพรรณ แก้วเพียงเพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า กล่าวว่า นนทบุรีเป็นจังหวัดปริมณฑลที่มีศักยภาพสูง และเป็นแหล่งรองรับการขยายตัวของเมืองในทุกด้าน ทั้งที่ด้านอยู่อาศัย ธุรกิจ ระบบการขนส่งมวลชน
ทั้งนี้ หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจโดยรวม ทางจังหวัดได้พยายามผลักดันให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดความมั่นคง โดยสนับสนุนการแสวงหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการธุรกิจในจังหวัด
ผ่านการจัดกิจกรรมด้านการตลาด การเจรจาการค้า การเชื่อมโยงตลาด ที่สอดคลล้องกับภาวะ กระแส หรือทิศทางตลาดในประเทศ และตลาดโลกในปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การขยายตัวทางการค้าของประเทศ
โดยจังหวัดนนทบุรีมีเป้าหมายการพัฒนาสู่การเป็น Livable City มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าสูงในภาคเศรษฐกิจ (High Value Economy Creation) สิ่งแวดล้อมของเมืองที่เติบโตอย่างยั่งยืน Environment Sustainable Growth และการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งแข่งขันได้
“กิจกรรมทางการตลาดจะเป็นตัวช่วยที่ดี เป็นกลไกในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางการค้า จึงทำให้เกิดโครงการ Nonthaburi Fair ขึ้น โดยเรามุ่งหวังจะให้เศรษฐกิจเกิดการหมุนเวียน และผู้ประกอบการในจังหวัดนนทบุรีมีรายได้เข้ากระเป๋ามากขึ้น”
สำหรับในปี 2568 จังหวัดนนทบุรีต้องการให้สินค้าที่นำเสนอมีความแตกต่าง และตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ จึงมีการนำเสนอสินค้าและบริการให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าเมื่อเข้าร่วมงานจะได้เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ผ่านกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม
โดยมีการเน้นนำสิ่งที่เป็น The Best มานำเสนอต่อผู้บริโภค และยังให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมตามเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งในงาน Best & Green of Non 2025 จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพสินค้าของจังหวัดนนทบุรี ที่พร้อมก้าวสู่ระดับประเทศ และระดับสากลด้วย
ด้านนายสงกรานต์ เพ็ชรน้ำเขียว พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ความคืบหน้าการเตรียมจัดงาน Best & Green of Non 2025 ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ได้เตรียมผู้ประกอบการ Exhibiter สินค้าและบริการเด่นของจังหวัด ที่มีความพร้อมจะยกระดับการค้าของเมืองนนท์สู่การค้าระดับสากลเข้าร่วมงาน
ซึ่งกิจกรรมภายในงานจะเปิดให้มีช่องทางการ Shopping Online การ Live Streaming ผ่านช่องของ Influencer และในขณะเดียวกันผู้เข้าชมงานยังได้สัมผัสกับบรรยากาศและกลิ่นอายของวัฒนธรรมความเป็นนนทบุรี ที่เตรียมมาโชว์บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร
“เราบรรจุความเป็นนนท์ทุกอย่างไว้ที่นี่…ที่เดียว ทั้งสินค้าเด่นมีชื่อเสียงมากกว่า 200 รายการ ทั้งธุรกิจบริการ ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว Wellness และธุรกิจที่พร้อมเจรจาเชื่อมโยงการค้า”
งานนี้เป็นการผนึกกำลังของหน่วยงานภาครัฐ และภาคีเครือข่ายเอกชนหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด หอการค้าจังหวัดนนทบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรี สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรี
สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี และชมรมผู้ประกอบการค้าอาหารจังหวัดนนทบุรี ที่พร้อมร่วมมือสนับสนุนให้เกิดงานนี้อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการของจังหวัด โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าทางการค้าได้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
นางยลดา รองหานาม ประธานหอการค้าจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จังหวัดนนทบุรีมีผู้ประกอบการ SMEs มากกว่า 3 หมื่นราย และเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจที่มีการนำนวัตกรรม และ AI มาใช้งาน
ทางหอการค้าจังหวัดนนทบุรีได้มีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในการประสานงานระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ พร้อมสนับสนุนงานด้านการค้า และการลงทุนของผู้ประกอบการ
“ศักยภาพของจังหวัดนนทบุรี เป็นเป้าหมายที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ หรือต่างชาติสนใจมาลงทุน โดยในงานนี้หอการค้าจังหวัดนนทบุรี และเครือข่าย YEC จะได้นำเสนอธุรกิจที่ตอบโจทย์ตลาดด้วย”
สุดท้ายกับนายเรืองศักดิ์ แสงเพ็ญพราว ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนนทบุรีพร้อมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายรัฐบาล และเป้าหมายของจังหวัด
ทั้งนี้ จากสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้ต้องมุ่งเน้นการผลิตและการตลาดในแบบที่ผู้บริโภคต้องการ โดยงาน Best & Green of Non 2025 จะแสดงให้ผู้บริโภคได้เห็นว่าอุตสาหกรรมในจังหวัดนนทบุรี มีศักยภาพในการผลิต มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการผลิต
อีกทั้งมีความทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และพร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยจะมีเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจที่นำ Carbon Footprint มาใช้ในองค์กร และต่อยอดในความร่วมมือระหว่างธุรกิจกับชุมชน
แนวทางการลด Carbon Footprint และการเข้าสู่ Carbon Neutrality โดยจะมีการนำองค์กรที่เป็น Success Case มาเล่าสู่กันฟังในงานนี้ด้วย ซึ่งประชาชน ธุรกิจ หรือผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจที่สนใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ในพาวิลเลียนของสภาอุตสาหกรรม
สำหรับตัวอย่างซอฟต์พาวเวอร์เมืองนนท์ โดยเฉพาะเมนูเด็ดจากวัตถุดิบขึ้นชื่อของเมืองนนท์ โดย เชฟจากัวร์ – ธีรวีร์ ดิษยะไชยพงษ์ อาทิ ยำหน่อกะลาปลารมควัน เมี่ยงหน่อกะลา ทาร์ตข้าวตอกมูสทุเรียน ข้าวเหนียวมูนเปิดหน้่าโบราณ (หน้ากุ้ง สังขยา หน้ากระฉีก วุ้นมะม่วงลอยแก้ว และข้าวมัดโบราณเมืองนนท์