เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 แบบจำลองสภาพอากาศ(วาฟ-รอม) ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) ระบุว่า จาก ร่องมรสุมและความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนและลาวตอนบน รวมทั้งพายุเซินติญที่เคลื่อนตัวเข้ามา ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทำให้ประเทศลาวมีปริมาณฝนตกหนักทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่แขวงหลวงพระบางนั้นมีปริมาณน้ำฝนที่วัดได้ถึง 500 มิลลิเมตร โดยมีปริมาณฝนตกหนักต่อเนื่องมาตลอด ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ตั้งบริเวณแขวงหลวงพระบาง รวมทั้งลำน้ำสาขาในลาวตอนเหนือมีระดับน้ำเพิ่มสูง และไหลลงมาที่ อ.เชียงคาน จ.เลย
ประกอบกับประเทศลาวตอนกลางตั้งแต่ แขวงนครหลวงเวียงจัน แขวงคำม่วน และแขวงสะหวันนะเขต มีฝนตกหนักต่อเนื่องด้วยเช่นกัน จนทำให้ขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานีวัดระดับน้ำของคณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง(เอ็มอาร์ซี) ได้แจ้งเตือนระดับน้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ โดยเฉพาะสถานีวัดระดับน้ำที่สถานี โขงเจียม นครพนม และมุกดาหาร พบว่าอยู่ในระดับล้นตลิ่ง และเอ่อท่วมเข้ามายังลำน้ำสาขาเข้าท่วมพื้นที่บริเวณรอบๆ โดยยังคาดการว่า ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคม ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอีก
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
วาฟยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ปริมาณน้ำฝนในประเทศลาวจะเริ่มลดปริมาณลง แต่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะยังคงปริมาณสูง ไม่ลดลงมากนัก เพราะปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้คงคงทะยอยลงในแม่น้ำสาขาอยู่ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่สูงขึ้นเวลานี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่เขื่อนในประเทศลาวแตก เพราะปริมาณน้ำจากเขื่อนแตกนั้น ไม่ได้ไหลมาในทิศทางนี้ โดยจะไหลลงทางทิศใต้ไปยังประเทศกัมพูชา
ที่มา:มติชนออนไลน์
