เตือนเช้า 6 ส.ค. จราจรกรุงเทพอาจวุ่นอีก เหตุจากสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม สภาพการจราจรในกรุงเทพมหานครติดขัดอย่างหนักในตอนเย็นถึงกลางดึกวันที่ 3 สิงหาคมา พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.จราจร) ให้สัมภาษณ์ถึงต้นเหตุว่า เกิดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ที่เริ่มก่อสร้างช่วงค่ำวันที่ 2 สิงหาคม มีการปิดจราจรขาออก 1 ช่องจราจร ตั้งเลยช่วงโชคชัย4 ยาวขึ้นไป 2 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ตอนเย็นรถเริ่มออกจากกรุงเทพ ทำให้การจราจรติดขัดขยายตัวจากปากทางลาดพร้าว ไปห้าแยกลาดพร้าว ถึงจตุจักร ถนนวิภาวดีฯขาออก นอกจากนี้การจราจรยังติดพันไปถึงด่านดินแดง ช่วงใต้ทางด่วน จนถึงประตูน้ำ และพันไปถึงพระราม 9 อโศก เพชรบุรี

“สรุปคือ กรุงเทพมหานครด้านใต้ทั้งหมดการจราจรติดขัดอย่างหนัก วันจันทร์เช้าที่ 6 สิงหาคมเปิดเรียน การจราจรติดหนักอีก ต้องช่วยกันคิด เพราะรถไฟฟ้าก็ต้องสร้าง จะแก้ไขอย่างไร ต้องหารือขสมก. ตำรวจในพื้นที่ ผู้ใช้รถต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพราะใช้เวลาก่อสร้างรถไฟฟ้าถึง 3 ปีครึ่ง” พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ระบุว่า ในวันที่ 20 สิงหาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ (รฟม.) จะยกเลิกในช่วงแยกโชคชัย4-แยกรัชดา-ลาดพร้าว และในจุดที่ 2 ตั้งแต่ซ.ลาดพร้าว 43 – หน้าตลาดลาดพร้าวสะพาน 2 จะทำให้ถ.ลาดพร้าวทั้งขาเข้าและขาออกจะเหลือช่องจราจรเพียงด้านละ 2 ช่องเท่านั้น เพื่อใช้พื้นที่ก่อสร้างสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) เป็นระยะเวลา 3 ปีตามระยะเวลาดำเนินการ

ที่ประชุมจึงมีความเห็นร่วมกันว่า จะเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางเลี่ยงถ.ลาดพร้าวแทนดังนี้ ในช่องทางขาออก เดิมใช้ทางพิเศษเลี้ยวขวาออกถ.ลาดพร้าว จะต้องไปใช้ซอยลัดด้านในเพื่อไปออกถ.รัชดาภิเษก หรือถ.ประดิษฐมนูธรรมแทน เช่น ซ.ลาดพร้าว 35 ซ.ลาดพร้าว 41(ภาวนา)และถ.โชคชัย 4 ไปออกซ.รัชดา 30, 32 (อาภาภิรมย์) และ 36 (เสือใหญ่อุทิศ)

ส่วนฝั่งขาเข้า มีเส้นทางลัดโดยให้ใช้ซ.ลาดพร้าว 64 และซ.ลาดพร้าว 80 เพื่อไปออกถ.รัชดาภิเษก ช่วงซ.18 และบริเวณแยกรัชดา-สุทธิสาร โดยกำชับ รฟม.ต้องไปติดป้ายประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมองเห็นมากขึ้น ซึ่งคาดว่าปัญหาจราจรจะคลี่คลายมากขึ้นเมื่ออุโมงค์บริเวณแยกรัชโยธินเปิดใช้ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และเมื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือแล้วเสร็จในปี 2563