“สมคิด” มั่นใจศก.ฟื้นตัวเต็มที่จีดีพีมากกว่า 4.5% เตรียมขายไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ต.ค.นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงาน “Thailand Focus 2018 : The Future is Now” จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ฟื้นตัวเต็มที่จากการที่รัฐบาลเปลี่ยนวิฤตเป็นโอกาสในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จากที่อัตราการขยายเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวที่ 0.9% แต่จีดีพีที่ผ่านมาเพิ่มเป็น 2.9% ในปี 2558 และ 3.2% ในปี 2559 และปี 2560 ที่ผ่านมาที่ 3.9% ทั้งนี้ ปี 2561 นี้จีดีพีน่าจะสูงกว่าทุกตัวเลขที่เคยประมาณการมา โดยช่วงที่ผ่านมาสถาบันในประเทศและต่างประเทศทั้งหลายต่างมีการปรับเปลี่ยนประมาณการสะท้อนความมั่นคง เข้มแข็ง และมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจ และจากความร่วมมือของทุกฝ่ายจีดีพีปีนี้อาจจะมีการปรับตัวเลขใหม่ให้มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนกรณีทิศทางดอกเบี้ยไทยที่มีการคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นในเร็วๆ นี้นั้น นายสมคิดกล่าวว่า อย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป และเชื่อว่าสามารถบริหารจัดการได้

“ตัวเลขจีดีพีปีนี้ไม่มีในใจว่าอยากให้ขยายตัวเท่าไร เพราะรัฐบาลทำให้ดีที่สุด เขาคาดเท่าไรเราพยายามให้ดีกว่านั้น เพราะเหมือนการวิ่งแข่งกัน ทำได้ก็ดีทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยๆ 4.5% ขึ้นไปแน่นอน” นายสมคิดกล่าว

นายสมคิดกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่องขึ้นมาโดยไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมาพบว่าการขยายตัวมาจากการบริโภคของประชาชน การบริโภคของรัฐบาล ขณะที่การส่งออกขยายตัว ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่มากขึ้นส่งผลกับการบริโภคบวกกับการที่รัฐบาลเร่งใช้จ่ายทั้งงบลงทุนจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ และงบประมาณประจำปี ที่เดิมไตรมาสแรกจะขยายตัวดี แต่ไตรมาสที่สองและสามตกท้องช้าง และกลับมาเร่งในช่วงไตรมาสที่สี่ซึ่งเป็นตีนปลาย ซึ่งรัฐบาลรัฐบาลก็ได้พยายามเร่งให้มีการเบิกจ่ายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ตัวเร่งเศรษฐกิจต่าง ๆ มีความสมดุล และการขยายตัวมาจากทุกแฟคเตอร์ ทั้งการส่งออก ความเชื่อมั่น การลงทุน การใช้จ่าย และท่องเที่ยวก็เป็นตัวสำคัญ ซึ่งไทยได้รับการจัดอันดับมูลค่าด้านการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 4 และด้านจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่อันดับ 10

“ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด จังหวะและสถานการณ์ต่างๆ เอื้ออำนวยโอกาสที่กำลังใกล้เข้ามา เพราะประเทศไทยโดดเด่นอยู่ในอาเซียน หากสามารถให้ข้อมูลความคืบหน้าการลงทุนต่างๆ ออกไปได้ นักลงทุนทั่วโลกก็จะสามารถที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งวันนี้ก็มีนักลงทุนจากทั่วโลกมาร่วมสัมมนา ทั้งนี้ เศรษฐกิจดีทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นก็จะดีตามและมีโอกาสที่จะขยายตัวทั้งจากการระดมทุนของบริษัทต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว และในอนาคตก็จะมีบริษัทนอกตลาดหุ้นเข้ามาระดมทุนอีก โดยกองทุนรวมโครงการสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) เท่าที่รับรายงานไม่มีอุปสรรคอะไร และคาดว่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้โดยวงเงินรอดูความเหมาะสม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยจะมีการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นอื่น เช่น ฮ่องกง สามารถทำได้ หลายรูปแบบบางอย่างเชื่อมโยงระบบงานหรืออื่นๆ แล้วแต่การเจรจา เรื่องการเชื่อมโยงเป็นเรื่องมีการพิจารณามานานแต่สมัยก่อนตลาดหุ้นไทยเล็ก ขณะนี้ตลาดหุ้นไทยใหญ่มากขึ้นจึงมีศักยภาพและมีโอกาส” นายสมคิดกล่าว

 


ที่มา : มติชนออนไลน์