เงินบาทเคลื่อนตัวในกรอบ ตลาดจับตาดูผลการประชุม กนง.

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 18 กันยายน 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ื (18/9) ท่ี่ระดับย 32.65/67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (17/9) ที่ระดับ 32.63/65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินของเอเชียส่วนใหญ่อ่อนค่าลงในวันนี้จากข่าวที่ว่า สหรัฐเตรียมจะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจากสินค้าของจีน โดยเมื่อวานนี้ (18/9) ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะเก็บภาษีนำเข้า 10% จากสินค้าจีน คิดเป็นมูลค่าราว 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเตือนว่าจะเก็บภาษีนำเข้ามากขึ้นอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หากจีนออกมาตอบโต้ ส่งผลให้ความกังวลด้านการค้าทวีความรุนแรงขึ้น แต่ในช่วงเช้านี้ จีนได้เปิดเผยความเห็นของนายจง ซาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่า “ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า และความร่วมมือเป็นทางเลือกที่ถูกต้องเพียงอย่างเดียว” นอกจากนี้ยังมีหลายฝ่ายออกแสดงความเห็นให้ยุติสงครามการค้า นายโตชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีการยุติสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐและจีนโดยเร็ว โดยระบุว่า ไม่มีประเทศไหนต้องการการตอบโตด้านภาษีนำเข้า

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่มีการเปิดเผยวานนี้ (17/9) ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐลดลงมาสู่ระดับ 19.0 จากระดับ 25.6 ในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ 23.0 โดยเป็นผลมาจากความกังวลด้านการค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายไว้ที่ 1.50% ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.57-32.675 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.57/59 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/9) ที่ระดับ 1.1673/75 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (17/9) ที่ระดับ 1.1655/58 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร เมื่อวานนี้ (17/9) มีการเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือนสิงหาคมลดลงสู่ระดับ 2.0% จากระดับ 2.1% ในเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรได้รับแรงสนับสนุนจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) นายเบนัวท์ เคอร์ ที่กล่าวว่า “ถ้าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเอื้ออำนวย คณะกรรมการกำหนดนโยบายของ ECB ควรจะมีการชี้แจงเพิ่มเติมถึงจังหวะความเร็วที่ ECB คาดว่าจะปรับลดการผ่อนคลายทางนโยบายการเงิน โดยหากเราให้ความกระจ่างมากยิ่งขึ้นเรื่องกระบวนการตอบรับของเรา สิ่งนี้ก็จะช่วยให้นักลงทุนและสาธารณชนในวงกว้างสามารถคาดการณ์แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น” โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1666-1.1717 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1686/88 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (18/9) ที่ระดับ 111.78/80 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (17/9) ที่ 112.08/10 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากการที่นักลงทุนหันไปถือครองเงินเยนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันพุธนี้ (19/9) โดยระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 111.27-112.67 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.92/95 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดประจำไตรมาส 2/2018 (19/9), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (20/9), ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือน ส.ค. (20/9), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือน ก.ย. (21/9)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -3.50/-3.00 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -1.4/-1.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ