“สธ.-ป.ป.ส.” เร่งศึกษาใช้กัญชาทางการแพทย์ ‘บิ๊กจิน’ ชี้ ม.44 ปลดล็อกแค่ข้อเสนอ

“บิ๊กจิน”เผย สธ.-ป.ป.ส.เร่งศึกษาข้อมูล ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ระบุแนวทางใช้ม.44เป็นเพียงข้อเสนอแนะจากนักวิชาการ ขอศึกษาข้อมูลชัดเจนด้านวิธีควบคุมการปลูกก่อน

วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอให้ใช้มาตรา 44 เพื่อนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ ว่า เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากที่รัฐบาลได้นำกฎหมายที่เกี่ยวกับยาเสพติดเสนอเข้าสภานิติบัญญัติ(สนช.)พิจารณาและให้ความเห็นชอบ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสนช.เห็นชอบเป็นกฎหมาย 2 ฉบับ และวิธีพิจารณาอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งมีความชัดเจนในการดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้เสพคือผู้ป่วย และมีความชัดเจนที่จะให้ศึกษาวิจัยให้ชัดเจนว่าพืชเสพติดบางชนิด เช่น กัญชา ว่าอำนาจ หน้าที่ ขั้นตอน กระบวนการเป็นอย่างไรเพื่อจะเร่งรัดให้ศึกษาเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ซึ่งตนได้ไปชี้แจงสนช.พร้อมรับเรื่องมาเพื่อทำการศึกษาร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ได้มอบหมายป.ป.ส.และกระทรวงสาธารณสุขไปทำการศึกษาในสองประเด็น คือ ขั้นตอนการวิจัย และการนำไปใช้ซึ่งต่างประเทศได้มีการวิจัยแล้วนั้นเป็นอย่างไรบ้างเพื่อนำมาเปรียบเทียบ รวมถึงการปลูกและสกัดและนำไปรักษา มีขั้นตอนการควบคุมตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง เป็นอย่างไร

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ขณะนี้ป.ป.ส.ได้ทำการรับฟังความเห็นและการศึกษารายละเอียดต่างๆโดยตนได้ขอให้เร่งทำรายละเอียดให้เสร็จภายในต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อศึกษาว่าความจำเป็นเร่งในการนำกัญชามาวิจัยเพื่อใช้ในการแพทย์ ส่วนเรื่องการเสนอให้ออกมาตรา 44 นั้น ทั้งป.ป.ส.และกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีใครพูดถึง แต่ทราบว่าเป็นข้อเสนอแนะจากนักวิชาการซึ่งเราไม่ปฎิเสธหรือตอบรับ เพราะต้องขอเวลาศึกษาผลทั้งสองประเด็นก่อน ทั้งนี้เข้าใจว่าที่หลายฝ่ายเสนอ เพราะอยากให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์โดยเร็ว และตอนนี้เหลือข้อมูลการศึกษาจากประเทศต่างๆทั้งสหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา เพื่อที่จะนำมามาศึกษาและจัดทำเป็นแผนงาน จากนั้นจะถามหน่วยงานเกี่ยวข้องเห็นชอบ ก่อนเสนอครม.พิจารณาต่อไป เข้าใจว่าทุกคนก็อยากเห็นประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ทิ้งหรือปฏิเสธและกำลังทำงานอยู่ และจะเห็นกรอบการทำงานในเดือนตุลาคมนี้ จึงไม่อยากบอกว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพราะก็เป็นความเห็นของแต่ละคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นหรือไม่ที่ต้องใช้มาตรา44 กำหนดเกี่ยวกับการใช้กัญชา พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า กฎหมายยาเสพติดฉบับปัจจุบัน ได้มอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจที่จะอนุมัติให้หน่วยที่ทำการวิจัยใช้กัญชาเป็นตัววิจัยได้ รวมทั้งกฎหมายฉบับใหม่ซึ่งอยู่ในขั้นกรรมาธิการจะมีรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการชัดเจนขึ้น โดยจะครบกำหนด 90 วันในเดือนกันยายนนี้ หากทำไม่เสร็จก็สามารถต่ออายุการทำงานได้ครั้งละ 30 วัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กำชับให้เร่งคณะทำงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าเรื่องกฎหมายตลอด

เมื่อถามว่าหากนำกัญชามาใช้ทางการแทพย์จะเป็นประโยชน์กับประเทศหรือไม่ พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า จากการศึกษาพืชที่ปลูกกัญชาของประเทศออสเตรเลีย ได้จัดพื้นที่ปลูกไว้ห่างชุมชนและเป็นพื้นที่หวงห้ามเฉพาะ มีระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึง มีการเลือกเพาะพันธุ์ ตัดแต่ง และสกัด อยู่ในการควบคุมทั้งหมด และไม่ได้ผลิตเพื่อการพาณิชย์ แต่ผลิตเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วย ทั้งหืดหอบ พาร์กินสัน เป็นต้น ซึ่งเรากำลังขอข้อมูลการใช้จากหลายประเทศในยุโรป เมื่อมีความชัดเจนด้านข้อมูลก็ต้องมาดูว่าจะควบคุมในประเทศได้อย่างไร

 


ที่มา  มติชนออนไลน์