อยากกิน Chilli Crab ไม่ต้องไปถึงสิงคโปร์ ‘จัมโบ้ ซีฟู้ด’ พร้อมเปิดที่ ไอคอนสยาม พ.ย.นี้

จัมโบ้ ซีฟู้ด ร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังจากสิงคโปร์ พร้อมเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ ไอคอนสยาม เดือนพฤศจิกายนนี้

นายเด็ด ชินสุภัคกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี เจ ซีฟู้ด จำกัด ผู้บริหารร้านจัมโบ้ ซีฟู้ด กล่าวว่า จัมโบ้ ซีฟู้ด เป็นร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังจากสิงคโปร์ที่เปิดดำเนินการครั้งแรกในสิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ. 2530 ปัจจุบันมี 13 สาขาทั่วโลก เช่น สิงคโปร์, เซี่ยงไฮ้, ไต้หวัน และเวียดนาม และมียอดขายกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยจัมโบ้ ซีฟู้ด กำลังเตรียมพร้อมที่จะเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่ ไอคอนสยาม เดือนพฤศจิกายนนี้

จากการศึกษาและสำรวจตลาดและผู้บริโภคในประเทศไทย พบว่า อาหารซีฟู้ดสไตล์สิงคโปร์ในเป็นหนึ่งในอาหารที่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่มีเปิดให้บริการในประเทศไทย นี่จึงเป็นโอกาสดีของคนไทยและนักท่องเที่ยวจากนานาประเทศที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จะสามารถลิ้มลองอาหารจีนซีฟู้ดสไตล์สิงคโปร์และมาเลเซียได้อย่างสะดวกสบาย เหมือนเดินทางไปรับประทานของแท้ต้นตำรับที่สิงคโปร์ แต่ไม่ต้องบินไปไกลถึงสิงคโปร์

ทั้งนี้ ได้เลือกไอคอนสยาม เนื่องจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ทั้งในเรื่องของที่ตั้งริมฝั่งแม้น้ำเจ้าพระยา และศักยภาพของโครงการไอคอนสยาม ที่เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยจากทั่วประเทศและผู้คนจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี โดยคาดการณ์จะมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการ มากถึงกว่า 200,000 คนภายในช่วง 1 ปีแรก

โดยจัมโบ้ ซีฟู้ด จะตั้งอยู่บนชั้น G ของไอคอนสยาม มีเนื้อที่กว่า 800 ตารางเมตร ถือเป็นร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดร้านอาหารหนึ่งของไอคอนสยาม สามารถรองรับลูกค้าได้ 250 – 300 ที่นั่ง ติดกระจกใสมองเห็นวิวแม่น้ำได้ 360 องศา มีการตกแต่งตู้ปลาที่ข้างในจะมีปู ล็อบสเตอร์และปลาว่ายน้ำ ความยาว 5 เมตรด้านในร้าน

เมนูซิกเนเจอร์ของจัมโบ้ ซีฟู้ด ทั้ง Award-Winning Chili Crab และ Signature Black Pepper Crab ตลอดจน ล็อบสเตอร์ ปูทาราบะ ปูดันเจนีส หอยงวงละปลาหลายชนิดโดยวัตถุดิบจะนำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ แคนาดา เคนยา ศรีลังกา และญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังมีวัตถุดิบจากในประเทศไทยเองด้วย เช่น กุ้งแม่น้ำ ปูไทย โดยเฉพาะปูทองหลางขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักอย่างต่ำตัวละ 1 กิโลกรัม ส่วนซอสต้นตำรับทั้ง 12 ชนิด และเครื่องปรุงหลักจะนำเข้ามาจากสิงคโปร์ทั้งหมด เพื่อคงรสชาติของอาหารตามแบบต้นตำรับซึ่งเป็นที่ชื่นชอบให้มากที่สุด