PACE ชี้แจงกรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบ เหตุไม่เชื่อมั่นการประเมินมูลค่ายุติธรรมโครงการเพซ โปรเจ็ค วันและเพซ โปรเจ็ค ทรี

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ถึงกรณีที่ผู้สอบบัญชี บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม และการให้ข้อสรุปอย่างมีเงื่อนไข ต่องบแสดงฐานะการเงินระหว่างกาล สำหรับงวดสิ้น สุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 เนื่องจากจากการถูกจำกัดขอบเขต โดยสถานการณ์เรื่องการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว ต่อการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด ที่บริษัทฯ ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 7,321 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อย ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม สำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 7,946.6 ล้านบาท โดยใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน

โดยจากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ จึงส่งผลให้ผู้สอบบัญชีถูกจำกัดโดยสถานการณ์ จึงไม่สามารถพิสูจน์รายได้ในอนาคต หรือข้อมูลเปรียบเทียบสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงในประเทศไทยได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบสมมุติฐาน เช่นเปรียบเทียบจำนวนผู้เข้าชมจุดชมวิวกับตึกชมวิวตามประเทศต่างๆ 9 แห่งทั่วโลก รวมถึงเทียบกับตึกใบหยกที่สูงเป็นอันดับ 2 ในไทยที่ปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าชมตึกเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนต่อปี และเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก อีกทั้ง จุดชมวิวในโครงการมหานคร ได้มีการออกแบบให้มีลิฟท์ที่มีความจุและเร็วที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ ซึ่งทำให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชมจุดชมวิวได้มากกว่า 3 ล้านคนต่อปี ซึ่งหากสินทรัพย์มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการได้บริษัทฯ จะมีรายได้ตามสมมุติฐานดังกล่าว