“บิ๊กตู่” ชี้ปัญหาใต้จะสั่งโครมๆ ไม่ได้ ต้องใช้การเมืองนำการทหาร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 สิงหาคม ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาและมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดกว่า 1,600 คนร่วมงาน

นายกฯให้นโยบายตอนหนึ่งว่ากระบวนการยุติธรรมต้องเข้มแข็ง มีการถ่วงดุลกันให้ได้ หลายคนต้องการแบบไหน ไม่ใช่ถ่วงกันไปมาจนทำอะไรไม่ได้อีกเหมือนเดิม ต้องถ่วงในทางสร้างสรรค์ มีระบบการตรวจสอบ คนต้องการปฏิรูปทหาร ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปกฎหมาย แต่ต้องเข้าใจว่าจะปฏิรูปอย่างไร ทุกคนพูดว่าปฎิรูปบูรณาการ แต่เข้าใจแค่ไหนอย่างไร ไม่ใช่พลิกแผ่นดิน พลิกฟ้าไปอย่างนั้น มันไม่ได้ แต่ทำอย่างไรให้ดีขึ้น มีความชัดเจนมากขึ้น สำหรับการแก้ปัญหาภาคใต้เห็นหลายอย่างดีขึ้น โดยใช้การเมืองนำการทหาร วันนี้เรากำลังเดินก้าวยุทธศาสตร์พัฒนาภาคใต้ ไม่ใช่สั่งโครมๆแล้วจบ ไม่ได้ เพราะความขัดแย้งสูง และมีประเด็นการเมือง มีประเด็นโลกด้วย แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาภาคใต้มากที่สุด ที่การจัดทำงบฯต้องรับรู้ต้องคำนึงความแตกต่างทางวัฒนธรรม ให้ตรงอัตลักษณ์ของเขา ส่วนการศึกษาต้องเน้นให้พูดภาษาไทยให้แตกฉานขึ้น กระทรวงศึกษาธิการต้องหาวิธีสอนให้ง่ายขึ้น ขณะที่การสอนของการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ตนให้ความสำคัญ ต้องเน้นผลงานให้เห็น ไม่ใช่ให้เขามาว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ แล้วจบไปได้อย่างไร

นายกฯกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ แรงงานผิดกฎหมาย สะสมมา 20 ปีแล้ว แตะก็ไม่ได้มีปัญหาเศรษฐกิจ เราต้องปรับปรุง สองฝ่ายหันหน้าหากัน รัฐบาลจะอำนวยการความสะดวก ให้เวลา ตอนนี้ก็เงียบเหงา พอใกล้เดือนธันวาคมมาอีกแล้ว ท่านต้องเคารพกฎหมาย คนมาอยู่ด้วยจำนวนมากโดยไร้การควบคุมจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นต้องมีมาตรการลดความเสี่ยงเหล่านี้ รัฐบาลทำทุกอย่าสง ต้องลำบากบ้างในช่วงนี้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาสังคม อาชญากรรม การค้ามนุษย์ ซึ่งวันนี้ก็มีอยู่ ไม่ว่าใครทั้งนั้น พลเรือน ทหารถ้าเกี่ยวข้อง ต้องถูกลงโทษเห็นไหมลงโทษ 26 ปี ตนปกปิดใครที่ไหน ทหารหรือตำรวจลงโทษหมด ข้าราชการ พลเรือน ไม่ว่าวินัยหรืออาญาผิดแค่ไหนก็ตามนั้น

นายกฯกล่าวต่อว่า วันนี้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าวพ.ศ. 2560 ซึ่งแน่นนอนว่าต้องมีการรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง ไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกเรื่องการถูกปรับ แสดงว่าผิดตั้งแต่วันนี้เลยกล้วถูกปรับ ถ้าทำถูกจะกลัวอะไร ใครมาเรียกร้องผลประโยชน์มาบอกรัฐบาล แจ้งตนก็ได้ จะลงโทษให้ ขณะนี้กำลังปรับดูอยู่ลงโทษอย่างไรเหมาะสม ทำให้รอบคอบ โทษเดียวกันหมดบางทีก็ไม่ได้ เพราะคนละความผิดกัน ทำให้เกิดความแตกต่าง โทษเดียวกันไม่ได้ ดูต่างประเทศด้วย ถ้าเราทำให้ถูกต้องแต่ต้นมันก็จบ แต่วันนี้เละไปหมด จดก็ไม่จดไม่ขออนุญาต ก่อให้เกิดคอร์รัปชันเรียกผลประโยชน์ เป็นเรื่องคุณธรรม จริยธรรมของผู้ประกอบการ ถ้าทำได้ บริษัทที่ขี้โกงขนแรงงานขึ้นรถตู้เข้ามาก็เลิกไปเอง ถ้าทำได้ไม่เสียเงินเสียงทอง แต่นี้ไปมุ่งหวังได้แรงงานราคาถูกแล้วจะแก้อย่างไร

 

ที่มา : มติชนออนไลน์