อีเวนต์เกาหลีกระหน่ำข้ามปี คิวฮอลแน่นผู้จัดหนีขึ้นห้าง

ตลาดอีเวนต์เกาหลีระอุ ผู้จัดหน้าใหม่-เก่า13 ราย ชิงงานแฟนมีตติ้ง-คอนเสิร์ต 3 เดือนส่งท้ายปีระดม 12 โปรเจ็กต์ จองคิวอิมแพ็ค อารีน่า-ธันเดอร์โดม ยาวถึงปี”62 แย่งเบียดคิวเจรจายูเนี่ยน มอลล์ จัดแฟนมีตติ้งสเกลเล็ก 2,000 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงภาพรวมธุรกิจจัดอีเวนต์เกาหลีในไทยว่า เคพ็อปยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ในช่วง 10 เดือนของปี 2561 ที่ผ่านมา พบว่ามีการจัดอีเวนต์ของนักร้อง นักแสดง และไอดอลเกาหลี ทั้งในรูปแบบแฟนมีตติ้ง และคอนเสิร์ตรวมกว่า 22 โปรเจ็กต์ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในไทย และในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้ ยังมีโปรเจ็กต์ใหม่จากผู้จัดอีกเป็นจำนวนมาก

ผู้จัดอัดโปรเจ็กต์ทิ้งทวนปี”61

ในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) จะมีการจัดงานอย่างเป็นทางการอีกไม่ต่ำกว่า 10 โปรเจ็กต์ เช่น คอนเสิร์ตใหญ่ของ 2 บอยแบนด์วงไอคอน (iKON) และวงวินเนอร์ (WINNER)

จากค่ายวายจี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (YG Entertainment) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 19-21 ต.ค.นี้ โดยบริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ของกึ้ง “เฉลิมชัย มหากิจศิริ” ซึ่งงานนี้เป็นที่น่าจับตาเพราะเป็นการจัดคอนเสิร์ตแบบต่อเนื่อง 3 วัน มีรายงานว่าบัตรคอนเสิร์ตไอคอนกว่า 6,000 ใบ จำหน่ายหมดทันทีตั้งแต่วันแรก

แหล่งข่าวในแวดวงผู้จัดอีเวนต์เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ความนิยมของเคพ็อปในไทยที่กลับมาพีกอีกครั้งนั้น ส่งผลให้ผู้จัดหน้าใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น เช่น บริษัท ไอเอ็มอี โปรดักชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ iME บริษัท ไฟว์ โฟว์ ไลฟ์ เรคคอร์ท จำกัด ของ “สัว” ศุภชัย กาญจนศักดิ์ชัย นักธุรกิจรุ่นใหม่ รวมถึงผู้จัดหน้าเก่าจากบริษัท โคมี่ เอเชีย ที่กลับมาฟอร์มทีมใหม่ภายใต้บริษัท รีจิสตาร์ ประกอบกับการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้ผู้จัดรายกลางถึงรายเล็ก ปรับแผนใหม่เน้นจัดโชว์จากศิลปิน “หน้าใหม่” แทนศิลปินที่มีชื่อเสียงเพราะค่าตัวสูงมาก เช่น ผู้เข้า

แข่งขันจากรายการโปรดิวซ์ 101 ซีซั่นที่ 2 อย่างควอน ฮยอนบิน ที่จัดงานแฟนมีตติ้งในไทย นอกจากต้นทุนค่าตัวที่ไม่สูงมากแล้ว ผู้จัดยังสามารถเจรจาสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ซื้อบัตรเข้าชม เช่น การไฮทัช และการถ่ายรูปกับศิลปิน (photo group) และสิทธิพิเศษในการเข้าชมรอบซ้อม เป็นต้น

เล็งใช้ยูเนี่ยนมอลล์จัดสเกลเล็ก

ขณะเดียวกัน จำนวนผู้จัดที่เพิ่มขึ้นทำให้มีความถี่ในการจัดอีเวนต์มากขึ้นด้วยเช่นกัน ปัญหาที่ตามมาคือขาดแคลนสถานที่จัดงาน โดยเฉพาะอิมแพ็ค อารีน่า และธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ที่ถูกจองไว้ยาวจนถึงปี”62 แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอีเวนต์ของไทย ผู้จัดรายเล็กจึงหันไปใช้ฮอลในห้างสรรพสินค้ามากขึ้นเช่น เดอะมอลล์ บางกะปิ และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ที่รองรับผู้ชม

ได้ราว 2,000-3,000 คน แต่มีข้อจำกัดคือการเดินทางไม่สะดวก ทำให้ผู้จัดหลายรายเล็งหาพื้นที่จัดใหม่ อย่างเช่น ศูนย์การค้ายูเนี่ยนมอลล์ ที่ปัจจุบันบริหารโดยบริษัท สยามจตุจักร จำกัด ขณะนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุงที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี”62 นี้ นอกจากนี้ยังมีการปรับกลยุทธ์เปลี่ยนไปจัดอีเวนต์ในวันธรรมดา จากปกติที่จัดในวันหยุด

“ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้ง ต้นทุนหลัก 50-60% คือค่าตัวศิลปิน ส่วนที่เหลือคือโปรดักชั่นและอื่น ๆ ที่ผู้จัดต้องบริหารจัดการให้ดี เพราะไม่ใช่ว่าทุกงานจะทำกำไรได้หมด ในช่วงที่ผ่านมาอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับเกาหลีนั้นมีมากกว่า 20 อีเวนต์ บางวันมีงานซ้อนกันถึง 3 งานก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว และหากเป็นโปรเจ็กต์ที่ดีมาก ผู้จัดก็จะแย่งกันเสนอราคากันดุเดือดมากขึ้น ซึ่งในภาวะแบบนี้รายเล็กจะแข่งขันลำบาก ที่สำคัญแค่มีเงินอย่างเดียวไม่ได้หมายความว่าต้นสังกัดของศิลปินจะเลือกเรา ขึ้นอยู่กับคอนเน็กชั่นที่มีด้วย”

กงยู-บีทีเอสเนื้อหอมค่าตัวแพง

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อสำรวจความต้องการของคอเกาหลีในไทยพบว่าศิลปินที่ตลาดต้องการอย่างมาก คือ นักแสดง “กงยู” และบอยแบนด์ “วง BTS” หรือบังทันบอยส์ โดยเฉพาะวง BTS ที่กระแสไม่เคยตก และยังนำอัลบั้ม Love Yourself Her ขึ้นไปอยู่บนบิลบอร์ดชาร์ต พร้อมทั้งได้รับรางวัล “Top Social Artist” ส่งผลให้พวกเขาทั้ง 7 คน กลายเป็นนักร้องระดับสากล ค่าตัวจึงต้องปรับขึ้นมากกว่า 1 เท่า

รายงานล่าสุด บริษัทไอเอ็มอีฯได้สิทธิ์เป็นผู้จัดคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของวง BTS ในวันที่ 6 เมษายน 2562 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถานลุ้นรีจิสตาร์ดีลงานใหญ่

ด้านนางสาวศศิวรรณ บุญเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท รีจิสตาร์ จำกัด ระบุว่า ขณะนี้ปัญหาหลักของผู้จัดคือ การหาสถานที่จัดงาน บางโปรเจ็กต์ได้คิวศิลปินที่ต้องการแล้ว แต่ไม่มีสถานที่จัดงานก็ต้องล้มโปรเจ็กต์ไปก็มี ทั้งนี้ ในฐานะผู้จัดอีเวนต์หากทิ้งโปรเจ็กต์ก็จะทำให้เสียค่ามัดจำ แล้วยังต้องเสียเครดิตด้วย สำหรับโปรเจ็กต์ในปีหน้านั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับเอเย่นต์เกาหลี ซึ่งถือเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้

รายใหญ่ปั้นศิลปินลงตลาด

รายงานข่าวจากบริษัท โฟร์โนล็อค จำกัด (4NOLOGUE) ระบุว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการโปรโมตโปรเจ็กต์พิเศษ 9×9 หรือไนน์ บาย นาย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเด็กรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการร้อง เต้น และแสดง เช่น ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธ์ภิญโญ เป็นต้น ในขณะที่บริษัท ไอเอ็มอีฯ ให้ข้อมูลว่าในช่วง 3 เดือนจากนี้จะเริ่มโปรโมตศิลปินของตัวเองเช่นกัน เพื่อทำตลาดทั้งในไทยและในต่างประเทศด้วย ส่วนอีเวนต์เกาหลีอยู่ในระหว่างเจรจา

ทั้งนี้ สำหรับผู้จัดอีเวนต์เกาหลีในถึงปัจจุบันมีรวมแล้ว 12 ราย คือ 1) บริษัท โฟโนล็อค จำกัด 2) บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด 3) บริษัท เอสเอ็มทรู จำกัด 4) บริษัท เฟโอห์ จำกัด 5) บริษัท ไอเอ็มอี ประเทศไทย จำกัด 6) บริษัท ไฟต์ โฟว์ ไลฟ์ เรคคอร์ด จำกัด 7) บริษัท ดู คอนเสิร์ต จำกัด

8) บริษัท เดอะ ไลม์ จำกัด 9) บริษัท อะชิ แอคติเวชั่น 10) บริษัท รีจิสตาร์ จำกัด 11) บริษัท ควีน เจ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด และ 12) บริษัท Aphi Enterprise โดยในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ จะมีอีเวนต์เกาหลีในส่วนของคอนเสิร์ตที่นอกเหนือจากข้างต้น คือ คอนเสิร์ตซูเปอร์จูเนียร์, คอนเสิร์ต AOMG Follow The Movement Thailand คอนเสิร์ตวง South Club คอนเสิร์ต บีทูบี คอนเสิร์ตนิวอีสต์และคอนเสิร์ตของไอยู (IU) ในส่วนของงานแฟนมีตติ้ง คือ แฟนมีตติ้งโจมี่, แฟนมีตติ้ง JIN Long Guo และงานแฟนมีตติ้งซอฮยอน (อดีตสมาชิกวงเกิร์ลส์ เจเนอเรชั่น) รวมอีเวนต์ทั้งหมดในปีนี้อยู่ที่มากกว่า 30 อีเวนต์ (