
นายฟิลิปโป กรานดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) กล่าวถึงปัญหาของผู้ลี้ภัยที่กำลังเป็นสถานการณ์ในปัจจุบันว่า “การที่รัฐบาลไทยดำเนินนโยบายส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศต้นทาง ควรอยู่บนพื้นฐานการสมัครใจ และยั่งยืน ผู้ลี้ภัยไม่ควรต้้องกลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพึ่งพาคนอื่นอีก แต่ควรจะพึ่งพาตนเอง”
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายฟิลิปโป ได้เดินทางเยือนประเทศเมียนมาเป็นครั้งแรก ด้วยการเรียกร้องให้ร่วมหาทางออกที่คลอบคลุมและยั่งยืนต่อสถานการณ์พลัดถิ่น และปัญหาไร้รัฐสัญชาติที่ยืดเยื้อยาวนาน
- พายุลูกใหม่จ่อเข้าไทย ชี้ความรุนแรงเท่า “เตี้ยนหมู่” ระวังน้ำท่วมใหญ่
- นายกฯตั้งบอร์ดใหญ่คุมแจกเงิน 10,000 บาท ห้าง-โมเดิร์นเทรดรับอานิสงส์
- กรมอุตุฯเตือน “พายุดีเปรสชั่น” เข้าไทย รับมือฝนตกหนัก-ท่วมฉับพลัน
โดยนางออง ซาน ซูจี ยืนยันกับทาง UNCHR ว่า ยินดีจะให้ความร่วมมือกับทางองค์กร พร้อมรับปากว่าจะให้ที่อยู่แก่ผู้ลี้ภัยที่เดินทางกลับประเทศ รวมถึงการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ อาทิ การศึกษา การรักษาในโรงพยาบาล การทำงาน โดยก่อนหน้านี้มีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา เดินทางกลับประเทศแล้ว 70 คน ทั้งนี้ นางซูจีตั้งใจว่าจะพัฒนารูปแบบการช่วยเหลือกลุ่มผู้ลี้ภัยเหล่านี้เป็น “ต้นแบบ” ของการช่วยเหลือกลุ่มอื่นๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลซูจีกล่าว่า แผนการทั้งหมดในกระบวนการช่วยเหลือ รัฐบาลยังต้องอาศัยการช่งยเหลือจากองค์กรนานาชาติและประเทศอื่นอยู่ ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดี ระบบการช่วยเหลือกลุ่มผู้ลี้ภัยที่เดินทางกลับประเทศก็จะประสบความเร็จตามความคาดหมายมากขึ้น