“ฟอร์ด” เดินหมาก สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

ถือเป็นผู้บริหารลูกหม้อที่คลุกคลีอยู่กับฟอร์ด ประเทศไทยมายาวนาน สำหรับกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย คนใหม่ “วิชิต ว่องวัฒนาการ” ที่เพิ่งได้รับการโปรโมตไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

“วิชิต” จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนฟอร์ด ประเทศไทย ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์ที่รอบด้าน ทั้งด้านบริหาร ทั้งในฝ่ายขาย ฝ่ายบริการลูกค้า และฝ่ายพัฒนาผู้จำหน่าย ทำให้เชื่อว่า ภายหลังจากการขึ้นมานั่งกุมบังเหียนครั้งนี้ จะได้เห็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญ และการยกระดับงานด้านการพัฒนาการบริการลูกค้า และประสบการณ์ต่อแบรนด์ฟอร์ดให้ดียิ่งขึ้น

วันนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษถึงทิศทางในการขับเคลื่อน “ฟอร์ด ประเทศไทย” จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน

Q : ความท้าทายบทใหม่

แน่นอน…ครั้งนี้ถือเป็นความท้าทาย หลังจากก่อนหน้านี้ผมอยู่กับฟอร์ดมา 22 ปี มีโอกาสได้เห็นการเติบโตของฟอร์ดในแต่ละช่วงเวลามาอย่างต่อเนื่อง เห็นการเติบโตขึ้นมาตามลำดับ

และผมก็เชื่อว่า “ฟอร์ด” ยังคงมีโอกาสเติบโตต่อไปซึ่งหากจะมองในระยะสั้น หลังจากปีนี้เรามีการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ ทั้งฟอร์ด เรนเจอร์, เรนเจอร์ แรพเตอร์ และเอเวอเรสต์ไปแล้วในช่วง 2-3 เดือน เชื่อว่าจะมียอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นและสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปคือ การดูแลลูกค้า ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งฟอร์ดทำมาอย่างต่อเนื่องและตลอดคือ การมุ่งเน้น “สร้างประสบการณ์” ให้ลูกค้าอย่างเข้มข้นและจริงจัง โดยเราจะพยายามใส่โปรแกรมต่าง ๆ เข้าไป เพื่อเดินไปสู่การเติบโตอย่างถาวรและยั่งยืน

Q : สร้างแบรนด์ ตอกย้ำภาพลักษณ์

อย่างที่ทุกคนทราบว่า…บางเรื่องเราไม่สามารถปรับได้ในช่วงเวลาข้ามคืน อย่างล่าสุด ฟอร์ดเปิดตัว “มัสแตง” ส่วนหนึ่งเราต้องการเสริมโปรดักต์ไลน์ที่มาอย่างถูกต้อง และตรงใจกับลูกค้า เนื่องจากแบรนด์ “มัสแตง” เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าหลาย ๆ คนเฝ้ารอ ให้ฟอร์ดนำเข้ามาทำตลาดมาอย่างยาวนาน

สิ่งที่ฟอร์ดจะมุ่งเน้นจากนี้ไปคือ 1.เข้าถึงง่าย ด้วยบริการที่ครอบคลุม ขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายไปให้ทั่วถึง ปัจจุบันฟอร์ดมีโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ 140 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 155 แห่ง และภายในระยะเวลา 1-2 ปี จากนี้จะเพิ่มเป็น 200 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเราต้องการให้ลูกค้าและคนทั่วไปได้เห็นฟอร์ดมากขึ้น และได้รับความสะดวกสบายอย่างช่วงที่ผ่านมา ฟอร์ดได้ส่งโมเดลโชว์รูม Mini 3S บุกเข้าไปยังเมืองรอง และเราหวังว่าโมเดลนี้จะได้รับการตอบรับ และเป็นโมเดลสำคัญในการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายให้กับฟอร์ด

2.ดูแลด้านการขายและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาฟอร์ดได้พยายามเปลี่ยนความคิด และวางสแตนดาร์ดโพซิชั่นใหม่ให้กับดีลเลอร์ เริ่มต้นที่ลูกค้าเข้ามาในโชว์รูม ตั้งแต่พนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน พนักงานต้อนรับ พนักงานขาย ฯลฯ ลงรายละเอียดทุกขั้นตอน ซึ่งฟอร์ดต้องการ “สร้างประสบการณ์ที่ดี” ให้กับลูกค้า และเราเชื่อว่าสิ่งที่จะสะท้อนกลับมาคือ สินค้าคุณภาพ, เครือข่ายการจำหน่ายที่ดี และลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีนั่นเอง

Q : การขยายเครือข่ายจากนี้จะเน้น Mini 3S

นโยบายสำคัญในการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายของฟอร์ดนั้น จะมุ่งเน้นไปที่ความครอบคลุมและขนาด จำนวนที่พอเหมาะพอดีกับธุรกิจของฟอร์ดในประเทศไทย สิ่งสำคัญที่เรา

มุ่งเน้นคือ โชว์รูมจะต้องอยู่ได้เป็นสำคัญ ดังนั้น ฟอร์ดจะขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายในลักษณะ “สเต็ปบายสเต็ป” และโชว์รูมขนาด Mini 3S ซึ่งเป็นการลงทุนไม่สูงมาก

Q : ยันไม่ทิ้งรถยนต์นั่ง

สำหรับแผนธุรกิจในส่วนของรถยนต์นั่ง สำหรับประเทศไทยนั้นตอนนี้เรายังไม่ได้ทิ้งไปไหน และฟอร์ดยังคงมองหาโอกาสในการทำตลาดนี้อยู่ตลอดเวลาเพียงแค่วันนี้จังหวะและโอกาส ความแข่งแกร่งของฟอร์ดมาอยู่ในส่วนของรถเรนเจอร์และเอเวอเรสต์ ซึ่งถือเป็นจุดแข่งของฟอร์ด และไม่ได้หมายความว่า…ฟอร์ดจะไม่สนใจรถยนต์นั่ง เพราะเรามีสินค้า มีลูกค้าอยู่ ซึ่งอนาคตถ้าวันหนึ่งตลาดรถยนต์นั่งเปิด ฟอร์ดก็พร้อมจะลุยอย่างเต็มที่

Q : ยังสนใจรถไฮบริดและรถอีวี

ฟอร์ดเรามีสินค้าในหลากหลายเซ็กเมนต์ เราศึกษาทุกตลาด และทุกอย่างเมื่อเรามีความพร้อม เราก็จะลงไปเล่นในตลาดนั้น ๆ อย่างแน่นอน

Q : ลูกค้าสนใจกลุ่มรถเพอร์ฟอร์แมนซ์

จะพูดว่า ปีนี้ถือเป็น “ปีทองของฟอร์ด” ก็ว่าได้ เพราะสินค้าของเรา ทั้ง 3 รุ่น คือ เรนเจอร์, เรนเจอร์ แรพเตอร์ และเอเวอเรสต์ ได้รับการตอบรับดีมาก ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของเราโตถึง 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปีนี้เชื่อว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่ฟอร์ดจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดขยับไปแตะระดับ 7% ส่วนยอดขายรถยนต์โดยรวมปีนี้น่าจะอยู่ที่ 980,000 คัน หรือหากปัจจัยบวกทั้งภาคการท่องเที่ยว

เศรษฐกิจโดยรวม การเมืองที่ชัดเจน น่าจะทำให้ตลาดในช่วง 3 เดือนสุดท้ายมีความคึกคักและมีความเป็นไปได้ ที่จะมียอดขายร่วมทะลุ 1 ล้านคัน

และในท้ายที่สุดเมื่อ “ประชาชาติธุรกิจ” ถามถึงความคืบหน้ากับลูกค้าเฟียสต้า-โฟกัส รวมทั้งเคสล่าสุดที่มีการระงับการจำหน่ายเรนเจอร์, เรนเจอร์ แรพเตอร์ และเอเวอเรสต์นั้น กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวย้ำว่า ทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการ และศาลท่านได้พิพากษาไปแล้ว การดำเนินการจากนี้จะเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย

ส่วนกรณีของเรนเจอร์, เรนเจอร์ แรพเตอร์ และเอเวอเรสต์นั้น ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ฟอร์ดได้สื่อสารไปก่อนหน้านี้ ฟอร์ดอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีการชี้แจงและทำความเข้าใจไปยังดีลเลอร์ทั่วประเทศ รวมทั้งลูกค้าด้วย เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างดีที่สุด