ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์การค้าโลก

แฟ้มภาพ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13/6) ที่ระดับ 31.26/28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันพุธ (12/6) ที่ระดับ 31.24/25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก ๆ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ขู่ว่าสหรัฐอาจประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของเยอรมนี หากเยอรมนียังสนับสนุนการสร้างท่อส่งแก๊ส “The Nord Stream 2” ซึ่งเชื่อมต่อกับประเทศรัสเซีย โดยนายทรัมป์อ้างว่าสหรัฐกำลังปกป้องเยอรมนีจากรัสเซีย และรัสเซียกำลังจะได้รับผลประโยชน์มูลค่าหลายพันล้านเหรียญจากเยอรมนี

อีกทั้งเมื่อวาน (12/6) นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนางคริสติน สาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ออกมาเตือนว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า เช่น จีนและสหภาพยุโรป (EU) อาจทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อทุกฝ่าย และสถานการณ์อาจเลวร้ายลง ซึ่งล่าสุดเมื่อวาน (12/6) นายทรัมป์ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวในทำเนียบขาวว่าสหรัฐจะไม่ทำข้อตกลงกับจีน นอกจากจีนจะกลับมาทำตามเงื่อนไขที่ได้เจรจากันไว้เมื่อต้นปี (2562)

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐ ได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐประจำเดือนพฤษภาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.1 เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังรอจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 18-19 มิถุนายน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ดี Fed Watch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้มีความน่าจะเป็นร้อยละ 79 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม และมีโอกาสร้อยละ 90 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน และมีโอกาสร้อยละ 97 ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.19-31.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.21/22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13/6) ที่ระดับ 1.1289/91 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (12/6) ที่ระดับ 1.1326/28 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของเยอรมนีหากเยอรมนียังสนับสนุนการสร้างท่อส่งแก๊สซึ่งเชื่อมต่อมาจากรัสเซีย นอกจากนี้ระหว่างวัน (13/6) มีรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีประจำเดือนพฤษภาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 สอดคล้องกับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อีกทั้งมีรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของอิตาลีประจำไตรมาส 1 ของปี 2562 ออกมาอยู่ที่ร้อยละ 10.4 เท่ากับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังมีรายงานดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมประจำเดือนเมษายนของสหภาพยุโรป ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.5 เท่ากับระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1285-1.1303 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1294/95 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (13/6) ที่ระดับ 108.49/52 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (12/6) ที่ระดับ 108.32/34 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยน
อ่อนค่าลงสวนทางกับการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 108.15-108.53 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 108.42/43 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจ ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ (13/6), ดัชนีราคาส่งออกและนำเข้า (13/6), ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐานสหรัฐ (Core Retail Sales) (14/6), ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมสหรัฐ (14/6), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ (14/6)


สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.00/-1.95 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศ อยู่ที่ -3.60/-0.90 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ