‘เอกชนท่องเที่ยว’ หวั่น ‘กัญชา’ กระทบภาพลักษณ์

หลังจากที่ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในหลาย ๆ
ส่วน โดยเฉพาะนโยบายผลักดันการท่องเที่ยวเชิงกัญชาให้กลายเป็นจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยวของประเทศไทย การผลักดันแพลตฟอร์มจองรถโดยสารออนไลน์อย่าง Grab ให้ถูกกฎหมาย รวมถึงเสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับแพลตฟอร์มจองที่พักออนไลน์แบบแบ่งปันอย่าง Airbnb และโฮมสเตย์ให้ถูกกฎหมาย เพื่อขยายโอกาสด้านการท่องเที่ยว

ประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นที่จับตามองของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก พร้อมสะท้อนมุมมองที่มีต่อนโยบาย ต่าง ๆ ดังนี้

หวั่น “กัญชา” กระทบภาพลักษณ์

“โชติช่วง ศูรางกูร” รองกรรมการผู้จัดการ “หนุ่มสาว ทัวร์” กล่าวว่า แม้ไทยจะส่งเสริมการใช้กัญชาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ก็ไม่น่าจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวชัดเจนมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวจากฝั่งตะวันตกซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะให้ความสนใจกับสินค้าและบริการจากกัญชาล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าเรื่องการใช้กัญชาในหลายด้าน รวมถึงด้านการแพทย์

เช่น เนเธอร์แลนด์ มี “กรุงอัมสเตอร์ดัม” ที่ถือเป็นเมืองการแพทย์ก้าวหน้าที่มีการพัฒนาการรักษาด้วยวิธีและยาที่หลากหลาย รวมถึงการแพทย์ที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม้กัญชาจะได้รับอนุญาตให้ใช้อย่างเสรีในหลายประเทศทั่วโลก แต่ทัศนคติของผู้คนในสังคมโลกส่วนใหญ่ยังมองว่ากัญชายังคงเป็นยาเสพติดประเภทหนึ่ง

ดังนั้น หากมีการโปรโมตการท่องเที่ยวในแง่ที่มีกัญชามาเกี่ยวข้องในอนาคตอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวของไทยได้

ขณะที่ “ยุทธนา เหล็กเพ็ชร” อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวและผู้เชี่ยวชาญตลาดอินบาวนด์ญี่ปุ่น บอกว่า ประเด็นกัญชาเพื่อการท่องเที่ยวนั้นไม่ส่งผลทั้งบวกและลบต่อตลาดเอเชียโดยตรง

อย่างไรก็ตาม คงรอดูความชัดเจนก่อนว่ารัดกุมหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากขั้นตอนการพิจารณานโยบายน่าจะใช้เวลานานเพราะมีความซับซ้อนและอ่อนไหว อย่างไรก็ตาม สำหรับตลาดเอเชียแล้วมองว่าคงไม่ได้ให้ความสนใจกับกัญชาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์มากเท่าไรนัก

หนุน Grab แก้ปัญหาระบบขนส่ง

“ส่วนการอนุญาตให้บุคคลทั่วไปสามารถนำรถที่มีอยู่ออกมาขับในลักษณะของสังคมเศรษฐกิจแบ่งปัน (sharing economy) หรือ Grab car นั้น มีข้อดีที่ควรสนับสนุนหลายประการ ทั้งเป็นการปรับกลไกตลาดก้าวให้ทันการพัฒนาเทคโนโลยี ยกระดับระบบขนส่งโดยรวม และมอบความรู้สึกอุ่นใจปลอดภัยให้กับผู้โดยสารรวมถึงนักท่องเที่ยว

เพียงแต่การนำแพลตฟอร์มและรถโดยสารป้ายดำเข้าสู่ระบบจะต้องทำอย่างถูกต้องและครอบคลุมทั้งระบบ ซึ่งทำได้ในหลายลักษณะ เช่น โมเดลกฎหมายญี่ปุ่นที่กำหนดใบอนุญาตรูปแบบใหม่สำหรับผู้ที่ขับรถผ่านแอปโดยเฉพาะ” โชติช่วงกล่าว

สอดรับกับ “ยุทธนา” ที่มองว่า การอนุญาตให้นำรถส่วนตัวออกมารับส่งผู้โดยสารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในลักษณะเดียวกับ “แกร็บ” นั้น ตนเห็นด้วยอย่างเต็มที่ เพราะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกและการอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคอีกแนวทางหนึ่ง รวมถึงในหลายประเทศทั่วโลกก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น มาเลเซีย หรือสิงคโปร์

นอกจากนั้นยังจะมาช่วยแก้จุดอ่อนสำคัญของการท่องเที่ยวไทยอย่างการขนส่ง และการปฏิเสธผู้โดยสารของแท็กซี่ไทยที่ไม่สามารถแก้ไขได้มาโดยตลอด

แนะแอร์บีเอ็นบีใช้มาตรฐาน รร.

สำหรับนโยบายด้านการผลักดันให้การให้เช่าที่พักระยะสั้นในรูปแบบเดียวกับแพลตฟอร์ม “แอร์บีเอ็นบี” เข้ามาสู่ระบบอย่างถูกต้องนั้น “ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ” นายกสมาคมโรงแรมไทยให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาเคยพูดคุยกับทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถึงแนวทางในการทำให้ที่พักในรูปแบบดังกล่าวถูกกฎหมายแล้ว

กล่าวคือ การนำที่พักที่จะเปิดให้เช่าขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด โดยกฎระเบียบการควบคุม
จะต้องมีแนวทางที่ใกล้เคียงกับกฎระเบียบของการเปิดให้บริการโรงแรม เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของ
ผู้ใช้บริการ

“ส่วนเรื่องโอกาสที่ที่พักให้เช่าระยะสั้นจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดนั้นไม่ห่วง เพราะที่ผ่านมาก็แย่งอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นธุรกิจในรูปแบบเดียวกัน จึงมองว่าการนำธุรกิจที่อยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายมาทำให้ถูกกฎหมาย น่าจะช่วยยกระดับระบบโดยรวมได้มากกว่า รวมถึงทำให้ที่พักต่าง ๆ และโรงแรม อยู่ในการควบคุมมาตรฐานเดียวกัน” ศุภวรรณย้ำ

นอกจากนี้ ทางสมาคมโรงแรมไทยยังคงให้ความสำคัญและขับเคลื่อนเรื่องการนำโรงแรมที่ยังไม่มีใบอนุญาตทั้งหมดเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแผนการจัดทำสถิติและข้อมูลของโรงแรมและที่พักในไทยทั้งหมด เพื่อนำไปพัฒนาต่อในอนาคต

ทั้งหมดนี้แม้จะเป็นมุมมองของกลุ่มผู้ประกอบการภาคเอกชนเพียงบางส่วนในบางประเด็นเท่านั้น แต่ก็เป็นเสียงสะท้อนที่ล้วนอยากให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลกทั้งสิ้น