ข้อพิพาทรัฐ-เอกชนบทเรียนซ้ำ ๆ

บทบรรณาธิการ

ความขัดแย้งระหว่าง บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. ในฐานะผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิ กับ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา เจ้าของโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ลักเซอรี่เอาต์เลต กำลังเป็นประเด็นร้อนที่สาธารณชนจับตามองว่าจะจบลงอย่างไร หลังแต่ละฝ่ายหยิบยกเหตุผลข้ออ้างกล่าวหาว่า อีกฝ่ายหนึ่งดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ประเด็นปัญหาเกิดจาก ทอท.ปิดทางเข้าออกโครงการดังกล่าว โดยชี้ว่าก่อสร้างรุกล้ำที่ราชพัสดุทางเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิที่อยู่ในความดูแลของ ทอท. บานปลายกลายเป็นข้อพิพาทเมื่อเอกชนนำคดีฟ้องร้องศาลปกครอง กล่าวหา ทอท.กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมายรวมทั้งละเมิด ขณะเดียวกันก็ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี

ขณะที่ ทอท.ทำหนังสือถึงสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ขอให้ตรวจสอบผลกระทบความปลอดภัยการบิน 6 ข้อ ที่ ทอท.กังวล เนื่องจากที่ตั้งโครงการเซ็นทรัล วิลเลจฯ อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ อาจกระทบรบกวนการบิน หรือตัวนักบิน

ศาลปกครองกลางได้หยิบยกคดีนี้ขึ้นพิจารณาเมื่อ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยไต่สวนคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ตามคำขอของ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ที่ต้องการให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เนื่องจากใกล้ถึงวันเปิดให้บริการตามที่กำหนดไว้ วันที่ 31 ส.ค. อย่างไรก็ตาม นอกจากรอศาลชี้ว่าจะสั่งคุ้มครองหรือไม่แล้ว ยังต้องลุ้นต่อว่าคำพิพากษาว่าจะออกมาแนวทางไหน

กลายเป็นกรณีพิพาทใหญ่ระหว่างหน่วยงานรัฐกับภาคเอกชนอีกคดีที่ติดอันดับทอล์กออฟเดอะทาวน์ เพราะนอกจากถูกมองเป็นเรื่องบิ๊กชนบิ๊กแล้ว สาธารณชนยังตั้งข้อสงสัยว่า เบื้องหลังอาจมีอะไรแอบแฝง

ทำนองเดียวกันกับข้อพิพาทหลาย ๆ คดีระหว่างรัฐกับเอกชน อย่างการกล่าวหาผู้ประกอบการก่อสร้างโรงแรม รีสอร์ต ฯลฯ รุกอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ป่า ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งผลการตรวจสอบส่วนใหญ่พบว่าหน่วยงานรัฐเองที่ออกใบอนุญาต อนุมัติ แต่ถูกอีกหน่วยงานจับกุม หรือสั่งให้รื้อถอน สะท้อนภาพการทำงานคนละทิศละทางของเจ้าหน้าที่รัฐเท่ากับแต่ละหน่วยงานรับผิดชอบแค่หน้าตัก ทั้งที่หากมีการประสาน ให้การทำงานภาครัฐในภาพรวมมีความเป็นเอกภาพ ข้อพิพาทขัดแย้ง ความเสียหายน่าจะลดน้อยลง

กรณีนี้รัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องไขปมปัญหาให้กระจ่าง เร่งดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมายขณะที่คู่กรณีทั้ง ทอท.-บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ก็ต้องต่อสู้คดีด้วยความมีสปิริต จริยธรรม เหนือสิ่งอื่นใดคือต้องเคารพกฎหมาย และคำชี้ขาดของศาล