LINE MAN ดึง “บิ๊กดาต้า”ครีเอท “โมเม้นท์มาร์เก็ตติ้ง”สร้างแต้มต่อในสมรภูมิ “ฟู้ดเดลิเวอรี่”

LINE MAN (ไลน์ แมน) อาศัยบิ๊กดาต้า สร้างความแตกต่างปลุกตลาด “ฟู้ดเดลิเวอรี่”ขยายฐานลูกค้าด้วย Emotional Value เสริมกลยุทธ์ Moment Marketing ชู “สิ่งที่ใช่ ในโอกาสที่ใช่”ดันยอดใช้งานพุ่ง 170% จากแคมเปญ LOVE MOM หม่ำกับแม่ ตอกย้ำ “ผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง”

นางสาววรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN เปิดเผยว่า บริการ LINE MAN เติบโตจากแอปพลิเคชันที่มีจุดแกร่งของบริการที่ให้ Functional value ในการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งบริการส่งอาหาร แมสเซนเจอร์ ส่งพัสดุ ซื้อของร้านสะดวกซื้อ และเรียกแท็กซี่

โดยตลอดสามปีที่ผ่านมากลายเป็นแพลตฟอร์มบริการที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งความท้าทายต่อไปจึงเป็นโจทย์ของทีมที่จะต้องสร้างให้ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งคนนี้ยั่งยืนและสามารถครองใจผู้ใช้ในระยะยาว โดยนอกจากความสะดวกสบายและความคุ้มค่าที่ผู้ใช้จะได้รับ

“เรามุ่งพัฒนาบริการที่สามารถสร้างคุณค่าทางความรู้สึก หรือ Emotional Value เพื่อเข้าถึงความรู้สึกและสร้างความผูกพันกับผู้ใช้ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ได้รับการพูดถึงจากผลสำรวจ เพื่อให้รู้สึกว่า LINE MAN เป็นผู้ช่วยที่เข้าอกเข้าใจผู้บริโภค”

โดยได้เริ่มนำร่องกับแคมเปญ LOVE MOM หม่ำกับแม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ในการนำเสนอการกระชับความสัมพันธ์ของแม่และลูกในยุคนี้ผ่านหนังโฆษณา พร้อมถ่ายทอดวิธีการใช้งานแอปพลิเคชั่นสำหรับกลุ่มลูกค้ารุ่นใหญ่ จนสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 170% เทียบกับเดือนกรกฎาคม

นอกจากกลยุทธ์ด้านการตลาดแล้ว สิ่งที่จะมาช่วยสร้างคุณค่าทางความรู้สึกผ่านการใช้บริการของ LINE MAN คือ “บริการคุณภาพ” ของพนักงานขับ อีกหัวใจสำคัญที่ LINE MAN มุ่งยกระดับเพื่อครองใจผู้ใช้ โดยมีการฝึกอบรมทักษะงานบริการสำหรับพนักงานขับอย่างเป็นระบบ จนเกิดการต่อยอดเป็นแคมเปญ “ไลน์แมนหล่อบอกต่อ”สอดคล้องกับผลสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี่ที่ให้มองคุณภาพของพนักงานขับว่าเป็นสิ่งที่ครองใจผู้ใช้ให้เกิดการใช้งานเป็นประจำ

เช่นเดียวกันกับการออกแบบแอปพลิเคชั่นให้ใช้งานง่ายกับทุกวัยและมีร้านอาหารมากถึง 50,000 ร้านทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตามทันทุกกระแสของเมนูยอดฮิต
สำหรับการสร้างคุณค่าทางความรู้สึก (Emotional Value) จะเข้ามาช่วยส่งเสริม กลยุทธ์ Moment Marketing ที่ LINE MAN ได้วิเคราะห์ Big Data โดยการจับกระแสตลาด แล้วส่งโปรโมชันไปยังกลุ่มผู้ใช้ได้ตรงกับโปรโมชันจัดขึ้น ในเวลาที่ถูกต้อง เมื่อผู้บริโภคได้รับข้อมูล จะกระตุ้นการซื้อได้อย่างรวดเร็วจนสร้างปรากฏการณ์ยอดสั่งชานมไข่มุกเพิ่มขึ้น 50 เท่าและสามารถขายขนมเอแคลร์ได้มากถึง 200,000 ชิ้นภายในหนึ่งเดือน

“LINE MAN ต้องการยกระดับแบรนด์ในทุกมิติ ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง ที่ช่วยส่งมอบความสะดวกสบายและบริการที่แก้ pain point ของผู้ใช้บริการเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ลูกค้ารักและไว้วางใจ เป็นการฉีกกฎพลิกเกมการตลาด O2O ด้วยการส่งมอบ Emotional Value สร้างความผูกพันด้านอารมณ์เพื่อผลักดันให้ LINE MAN เป็น Top of Mind ของผู้ใช้บริการได้” นางสาววรานันท์ ย้ำ

ปัจจุบันบริการ ไลน์แมนมียอดผู้ใช้งาน 1.5 ล้านคน/เดือน มีการใช้งานเฉลี่ยต่อคนมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน มีค่าใช้จ่ายในการสั่งแต่ละออร์เดอร์มากกว่า 300 บาท และมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้บริโภคที่มีช่วงอายุ 20-40 ปี โดยบริษัทมีแผนขยายฐานผู้ใช้ไปในกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ซึ่งในแคมเปญล่าสุดที่เน้นไปในเรื่องการสร้างคุณค่าทางความรู้สึกทำให้มีกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นได้