ชาวสวนยางปลูกพืชอื่นเสริมแต่ไม่เพียงพอ วอนรัฐเร่งช่วยเหลือ ขอกิโลละ60-70บ. ไม่เรียกร้องสูงกว่านี้

ชาวสวนยางวอนเร่งช่วยเหลือ ราคาตกต่ำแม้พยายามปรับตัวด้วยการลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้จากการปลูกพืชอื่นแซม โดยขอให้รัฐบาลช่วยเหลือให้ราคาอยู่ที่ 60-70 บาท ซึ่งจะเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้เสนอรัฐเปิดจุดรับซื้อน้ำยางสดในราคาชี้นำตลาดทุกชุมชน

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวสวนยางในอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ยังคงนำน้ำยางสดมาจำหน่าย โดยเฉพาะชาวสวนยางที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์กองทุนสวนยางนั้น ในขณะนี้จะสามารถจำหน่ายน้ำยางสดได้ในราคาที่สูงกว่าราคาตามจุดรับซื้อน้ำยางทั่วไปอย่างน้อยกิโลกรัมละ 2 บาท โดยราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 42-44 บาท ส่วนราคาท้องถิ่นนั้นจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 38-40 บาท แต่ก็ยังคงเป็นราคาที่ถือว่าตกต่ำและประสบปัญหาขาดทุน

นายไพโรจน์ ชุมนิรัตน์ เลขานุการสหกรณ์กองทุนสวนยาง จำกัด บ้านเก่าร้าง อำเภอคลองหอยโข่ง กล่าวว่า ราคายางพาราที่ตกต่ำลงนั้น ชาวสวนยางทำได้เพียงแค่การปรับตัว เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนั้นก็ได้มีการปลูกพืชอื่นแซมยาง เพื่อเป็นรายได้เสริมบ้าง แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะพืชผลบางชนิด ไม่ว่าจะเป็นกล้วย อ้อย สับปะรด ทุเรียน เมื่อเกษตรกรปลูกและมีผลผลิตออกพร้อมกันก็มีราคาตกต่ำเกือบทุกชนิด

ส่วนแนวทางในการช่วยเหลือนั้นอยากให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือ โดยเฉพาะในเรื่องราคา โดยหากราคาน้ำยางสดแกว่งตัวอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-70 บาทนั้นจะเป็นราคาที่ชาวสวนยางอยู่ได้ และไม่เรียกร้องให้ราคาสูงกว่านี้ แต่ราคาที่ร่วงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาทเศษ ทำให้ชาวสวนยางเดือดร้อนอย่างหนักเพราะรายได้หายไปกว่าครึ่ง

นายไพโรจน์กล่าวอีกว่าสำหรับแนวทางที่รัฐบาลควรช่วยเหลือเร่งด่วนคือการเปิดจุดรับซื้อน้ำยางในชุมชนและรับซื้อน้ำยางสดในราคาชี้นำตลาด ซึ่งเชื่อว่า ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จะสามารถดึงราคาให้ขึ้นมาได้ และถือเป็นการช่วยเหลือชาวสวนยางได้อย่างทั่วถึง ทั้งเจ้าของสวนยางและคนรับจ้างกรีดยาง

 

ที่มา : มติชนออนไลน์