เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการปฏิรูปงานด้านความมั่นคง
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า มีการชี้แจงในงานในความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการฯ 4 ด้าน 1.การจัดทำฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ซึ่ง สมช.รับผิดชอบ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากอยู่ในระหว่างการจัดทำข้อตกลงกับหน่วยงานภาครัฐ 27 หน่วยงานเพื่อให้สมช.นำฐานข้อมูลจากทั้ง 27 หน่วยงานมาใช้ประโยชน์ในเรื่องการวิเคราะห์และประเมินเรื่องภัยคุกคามต่างๆ ได้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้สนับสนุนในเรื่องการเชื่อมโยงและการจัดทำแอพพลิเคชั่นที่ใช้เรื่องเข้าและถอดรหัสของข้อมูลที่มีชั้นความลับ 2.การจัดทำแผนแม่บทในการปฏิรูปการบริหารจัดการการปรับปรุงโครงสร้างของกระทรวงกลาโหม รวมทั้งการพัฒนาขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการคืบหน้าทั้งการวิจัยและด้านอุตสาหกรรมในการป้องกันประเทศ
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
พล.อ.ทวีปกล่าวต่อว่า 3.สำหรับการปฏิรูปองค์กรตำรวจ ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำการปฏิรูปทั้ง 6 ด้าน โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงความคืบหน้าทั้ง 6 แนวทาง ซึ่งมีความชัดเจน และข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปงานด้านกระบวนการยุติธรรมที่จะนำไปใช้ในการปฏิรูปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ และ 4.การปฏิรูปงานด้านข่าวกรองโดยสตช.ได้ดำเนินงานเกือบเสร็จสิ้นทุกกรณี โดยมี 1 กรณีที่สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติได้ขอเชื่อมโยงกับ 17 หน่วยงาน ที่มีทั้งหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ภัยคุกคามต่างๆ ต่อไป ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบ และจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินคณะที่ 5 ก่อนเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ต่อไป
ที่มา : มติชนออนไลน์
