“มติทางการ”กก.มรดกโลก ประกาศเขาใหญ่-อยุธยาพ้นภาวะอันตราย อีก3ปี ลุ้นพระธาตุพนม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 2-12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่เมืองคาร์คูฟ สาธารณรัฐโปแลนด์

นางรวีวรรณกล่าวว่า ที่ประชุมมีวาระที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย 2 วาระ คือ 1.รายงานสถานภาพการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ และนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งที่ประชุมมีมติไม่จัดให้แหล่งมรดกโลกทั้งสองแห่งอยู่ในแหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย อีกทั้งยังได้ชื่นชมการดำเนินงานของไทยในการจัดทำมาตรการด้านต่างๆ เพื่อปกป้อง คุ้มครอง และรักษาคุณค่าความโดดเด่นอันเป็นสากลของแหล่งมรดกโลก ส่วนวาระที่ 2 ที่ประชุมเห็นชอบการนำเสนอพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม กลุ่มก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรจุไว้ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของศูนย์มรดกโลกแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปทางจังหวัดนครพนมจะต้องดำเนินการจัดทำเอกสารนำเสนอพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งมรดกโลก คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปี จากนั้นคณะทำงานมรดกโลกจะลงพื้นที่ศึกษารายละเอียดของพระธาตุพนมโดยใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปี ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอย่างต่ำ 3 ปี ในการพิจารณาว่าพระธาตุพนมจะได้ขึ้นเป็นแหล่งมรดกโลกหรือไม่

เลขาธิการ สผ. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งนี้ มีรัฐภาคีเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติเป็นแหล่งมรดกโลกรวม 35 แห่ง แต่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก 25 แห่ง แบ่งเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม 20 แห่ง และทางธรรมชาติอีก 5 แห่ง โดยเป็นแหล่งทางวัฒนธรรมในกลุ่มอาเซียน 1 แห่ง คือ ภูมิทัศน์วัฒนธรรม แหล่งโบราณคดีสมโบร์ไพร์กุก ประเทศกัมพูชา

 

ที่มา : มติชนออนไลน์