SCB ปั้นเบี้ยผ่านแบงก์โต20% เร่งหั่นพอร์ตประกันออมทรัพย์ ลุยขายสุขภาพ

SCB ตั้งเป้าเบี้ยประกันผ่านแบงก์ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จับมือบริษัทย่อย SCBLIFE ในเครือกลุ่มเอฟดับบลิวดี(FWD) เปิดประกันสุขภาพ SCB Multi Care Multi Claims คุ้มครองกลุ่มโรคร้าย จ่ายคืนเบี้ยเต็มหากไม่เคลม ทุนประกันสูงสุด 20 ล้านบาท “อภิพันธ์” เผยพร้อมเตรียมแผนงานปี’63 เปิดแถลงกลยุทธ์ 23 ม.ค.นี้ “เดวิด” ชี้เร่งหั่นพอร์ตประกันออมทรัพย์ที่มีอยู่กว่า 90% ลุยขายสุขภาพ-วางแผนเกษียณอายุ-การศึกษา ระบุปิดขายไปแล้วบ้าง ปีนี้ต้องใช้เวลา 6-12 เดือนสรุปว่าจะปิดอีกกี่แบบ ระบุทีมลงทุนหาที่ลงทุนนอก หลัง คปภ.เปิดทางขยายสัดส่วนเพิ่ม ช่วงดอกเบี้ยต่ำนาน

นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB เปิดเผยในงานเปิดตัวประกันสุขภาพ SCB Multi Care Multi Claims เคลมคุ้มกลุ่มโรคร้าย โดยร่วมกับ บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต(SCBLIFE) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกลุ่มเอฟดับบลิวดี (FWD) ว่า ในปี 2563 ธนาคารตั้งเป้ายอดขายประกันผ่านสาขาของธนาคารจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% นอกจากจะขายผ่านสาขาของธนาคารที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 900-1,000 สาขาแล้ว โดยภายในไตรมาส 1/63 จะเริ่มขายผ่านช่องทางดิจิทัลของธนาคารด้วย

“ภาพรวมมองว่า ปีนี้ธุรกิจประกันจะเติบโตกว่าปีก่อน ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจ และภาพรวมการดำเนินงานของปีนี้จะแถลงในวันที่ 23 ม.ค.นี้”นางอภิพันธ์กล่าว

ส่วนความร่วมมือเปิดตัว SCB Multi Care Multi Claims เคลมคุ้มกลุ่มโรคร้าย โดยให้สิทธิประโยชน์เคลมได้สูงสุด 6 ครั้ง ครอบคลุมโรคร้ายแรง 5 กลุ่ม ซึ่งแบ่งโรคร้ายแรงออกเป็นโรคร้ายแรงระดับต้นถึงปานกลาง จ่ายครั้งละ 20% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โรคร้ายแรงระดับรุนแรงครั้งแรก จ่าย 100% ครั้งที่ 2 จ่าย 110% ครั้งที่ 3 จ่าย 120% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

นอกจากนี้ ยังหยุดจ่ายเบี้ยเมื่อเคลมใหญ่(Minor Claim) แต่คุ้มครองต่อจนครบสัญญา โดยผู้ถือกรมธรรม์หยุดจ่ายเบี้ย เมื่อได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงระดับรุนแรงครั้งแรก และยังได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องจนถึงอายุ 75 ปี และหากไม่เจอโรคร้ายคืนเบี้ยเต็มจำนวน เมื่อผู้ถือกรมธรรม์มีชีวิตอยู่จนครบอายุ 75 ปี และไม่เคยเจ็บป่วยด้วยโรคร้านแรงระดับรุนแรง โดยทุนประกันเริ่มต้น 3 แสนบาท – 20 ล้านบาท สำหรับปัจจุบันหลังจากเริ่มทดลองขายประมาณ 5-6 วัน ผ่านสาขาของธนาคารมีลูกค้าที่ได้รับกรมธรรม์แล้วประมาณ 300 ราย

“ประกันชีวิตที่ออกมาครั้งนี้ ถือเป็นรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิดสร้างสมดุลออกมาเป็นประกันคิดเผื่อเพื่อคนคิดเยอะ โดยคิดเผื่อ ให้ลูกค้าได้รับมือและเตรียมค่าใช้จ่ายสำหรับการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็คิดเยอะ หากลูกค้าไม่เคลมโรคร้ายแรงระดับรุนแรงจนครบสัญญา รับเงินก้อนคืน 100% ของเบี้ยที่จ่ายมาทั้งหมด”นางอภิพันธ์ กล่าว

นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCBLIFE กล่าวว่า ช่วงนี้อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ซึ่งในอดีตบริษัทค่อนข้างโฟกัสพอร์ตประกันสะสมทรัพย์เป็นหลัก ปัจจุบันมีพอร์ตดังกล่าวสูงกว่า 90% ซึ่งทั้งหมดขายผ่านแบงก์ ฉะนั้นปัจจัยสำคัญคือต้องเร่งปรับพอร์ตสินค้าเน้นไปขายสินค้าความครองชีวิต ประกันสุขภาพ วางแผนมรดกหรือการศึกษาบุตร และการวางแผนเกษียณอายุ ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปในเส้นทางการดูแลวางแผนทางการเงินของลูกค้าในการซื้อประกันชีวิต โดยเฉพาะการวางแผนการศึกษาของเด็กๆ ให้แต่ละครอบครัววางแผนทางการเงินการศึกษาให้เหมาะสม

“เป้าหมายที่จะลดพอร์ตประกันสะสมทรัพย์ในปีนี้ เราอยากจะให้เป็นลักษณะของเข็มตีกลับข้าง คือ พอร์ตโปรเทคชั่นเพิ่มสูงขึ้นมากๆ ซึ่งการแบกต้นทุนพอร์ตออมทรัพย์ตรงนี้เชื่อว่าจะจัดการได้ เนื่องจากค่อนข้างมีความชำนาญในการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้ได้ยกเลิกแบบออมทรัพย์ไปแล้วบ้าง ซึ่งปีนี้ก็ยังอยู่ในกระบวนการ สัก 6-12 เดือนน่าจะได้เห็นรายละเอียด ” นายเดวิดกล่าว


ส่วนเกณฑ์ที่ คปภ.เปิดทางแก้ประกาศลงทุนใหม่ ยืดหยุ่นให้บริษัทประกันสามารถลงทุนต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นนั้น ขณะนี้ทีมฝ่ายลงทุนมีการดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องศึกษาอย่างรอบคอบก่อนจะออกไปลงทุน คงต้องปรึกษาหารือกันก่อน