ปลาคลองคู้ลำพันนับ 1 พันกก.ตายต่อเนื่อง เหตุฝนชะล้างดินเปรี้ยว ชาวบ้านเก็บซากทำปลาร้า

เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ 8 มิ.ย.60 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้า จากที่มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ปลาผิวน้ำ อาทิ ปลาสร้อย,ปลาตะเพียน,แปลาซิว จำนวนมากกว่า 1,000 กก.ลอยหัว เกยตลิ่งขึ้นมาหาอากาศหายใจ และ น็อคน้ำ ตายเกลื่อนขาวโพลน ส่งกลิ่นเหม็นเน่าตลบอบอวนคละคลุ้ง ตลอดในคลองคู้ลำพัน เป็นระยะทางไกลมากกว่า1.5 กม. ซึ่งน้ำในคลองไหลจากแม่น้ำปราจีนบุรีผ่านทุ่งนาจากหมู่บ้านหาดยาง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มาในท้องทุ่งนา ,สวนส้มเขียวหวานพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ หมู่บ้านไผ่ขาด หมู่ 2 ต.คู้ลำพัน อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านได้เก็บปลาดังกล่าวมาประกอบอาหาร และรายงานแจ้งให้ประมง จ.ปราจีนบุรีทราบตามที่เสนอแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวได้ลงสำรวจ พบว่ายังคงมีปลาลอยเกยตลิ่งตายอีกอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้นำไปประกอบอาหาร โดยปลาที่ตายลอยขึ้นอืดจะช้อนเก็บไปทำปลาร้า หรือ ทำปุ๋ยหมักใส่ไร่นา ได้พบนายสงกรานต์ ท่าหิน 49 ปี ผญบ.หมู่ 1 และ นายอโนทัย อารักษ์ อายุ27ปี ผญบ.หมู่ 2 เลขที่ 25/1หมู่ 2 ต.คู้ลำพัน อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี

นายอโนทัย กล่าวว่า“วันนี้ (8มิ.ย.) ได้มีเจ้าหน้าที่ประมง จ.ปราจีนบุรี มาตรวจวัดค่าPH. ค่าความเป็นกรด–ด่าง ของน้ำ หาสาเหตุของปลาตาย จากการตรวจสอบ ผลออกมาว่าเนื่องจากปริมาณฝนทีตกหนัก ชะล้างหน้าผิวดินไหลระบายลงคลองคู้ลำพัน ทำให้สภาพน้ำ เป็นน้ำเปรี้ยว มีฤทธิ์เป็นกรด

เนื่องจากฝนตกติดกันหลายวัน เป็นน้ำใหม่ฝนตกแรงได้ชะดินที่ทำนาด้านบนไหลลงคลองมาด้านล่างทำให้ปลาน็อคหรือเมาน้ำตายจำนวนมาก โดยปลาที่น็อคน้ำง่ายได้แก่ปลาขาว,ปลาสร้อย,ปลาตะเพียนชาวบ้านเรียกว่าปลาหัวเบา จะน็อคน้ำง่ายกว่าปลาชนิดอื่น ซึ่งไม่พบว่าเป็นอันตราย ชาวบ้านจึงเก็บเอาไปทำปลาร้า และบางคนทำปุ๋ยหมักใส่นาข้าว และสำหรับน้ำในคลองยังใช้ทำประปาหมู่บ้านอีกด้วย”นายอโนทัย กล่าว