โบรกฯ หวั่นสารพัดปัจจัยลบ “ไวรัสระบาด-ชุมนุมประท้วงรัฐบาล” กดดันหุ้นไทยดิ่งต่อ

“บล.กรุงศรี” ชี้สารพัดปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ทั้งพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ปกปิดอาการเพิ่มเติม-ราคาน้ำมันดิบร่วง-นักศึกษาชุมนุมประท้วงรัฐบาลกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ หวั่น SET Index รูดทดสอบ 1,340 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นเช้าวันที่ 27 ก.พ.63 ว่า ฝ่ายวิจัยยังคงมีมุมมองเป็นลบ โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) จะปรับตัวลงทดสอบ 1,340 – 1,345 จุด จากความกังวลไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่ยังคงแพร่ระบาดไปในหลายประเทศ รวมถึงการพบผู้ป่วยชาวไทยติดเชื้อไวรัสจากพื้นที่เสี่ยงในต่างประเทศแต่ปกปิดข้อมูล จึงมีความเสี่ยงที่ไวรัสจะระบาดเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้ ปัจจัยราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงหลุด 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลความต้องการใช้ที่หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจจะเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อีกทั้งปัจจัยเรื่องการชุมนุมประท้วงรัฐบาลในหลายจุดของกลุ่มนิสิตนักศึกษาจากประเด็นยุบพรรคอนาคตใหม่ ยังเป็นอีกแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะมีสลับรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี’63 มูลค่า 3.2 ล้านล้านบาทแล้ว ซึ่งจะเป็นบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงถัดไป

ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) ในกลุ่มส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ KCE, HANA และ DELTA กลุ่มส่งออกอาหาร ได้แก่ CPF และ TU อานิสงส์ทิศทางเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มไฟแนนซ์ แนะนำ MTC, SAWAD และ KTC ได้อานิสงส์ต้นทุนการเงินลดลงหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ย 0.25% หุ้นกลุ่มปลอดภัย (Defensive) ที่จ่ายปันผลระดับสูง ได้แก่ ADVANC, INTUCH และ TTW รวมถึงหุ้นที่ได้รับการเพิ่มน้ำหนักในดัชนี MSCI ได้แก่ CRC, BTS และ BDMS มีผลวันที่ 28 ก.พ.63

ขณะที่หุ้นเด่นแนะนำวันนี้ ได้แก่ ADVANC (ปิด 197.00 บาท ซื้อ/เป้า 247.00 บาท) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 น้อยสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกจากนี้ ADVANC เริ่มเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์เป็นรายแรกของไทย ซึ่งจะช่วยหนุนกิจกรรมการตลาดและช่วยดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการเครือข่ายของ ADVANC มากขึ้น


ถัดมาแนะนำ CK (ปิด 19.00 บาท ซื้อ/เป้า IAA Consensus 25.50 บาท) ได้บรรยากาศ (sentiment) เชิงบวกจากประเด็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี‘63 ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ซึ่งคาดภาครัฐจะเร่งเบิกจ่ายทันทีและส่งผลดีโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มรับเหมา โดยสาเหตุที่เลือก CK เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม (Top Pick) เนื่องจากมีผลประกอบการผันผวนน้อยสุดของกลุ่ม จากการกระจายเงินลงทุนในบริษัทลูกซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้า/ทางด่วน (BEM), น้ำประปา (TTW) และโรงไฟฟ้า (CKP) จึงมีความมั่นคงของผลประกอบการมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่นที่เน้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพียงอย่างเดียว