ดัชนีหุ้นไทยฐานแกร่ง 1,650 จุด

คอลัมน์ภาวะหุ้นเงินบาท

ตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-21 ก.ย. 2560) เริ่มลดความร้อนแรงลงมาแล้ว โดยต้นสัปดาห์ (16 ก.ย.) ยังมีเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง ดันดัชนีปิดตลาดที่ 1,670.20 จุด เพิ่มขึ้น 9.67 จุด หรือ +0.58% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 67,807 ล้านบาท

แต่เข้ากลางสัปดาห์ (20 ก.ย. 2560) ดัชนีเริ่มมีทิศทางปรับตัวลดลง โดยมีแรงเทขายทำกำไรหลังจากปรับตัวขาขึ้นแรง ขณะที่ต่างชาติชะลอการซื้อ และเฝ้ารอดูการประชุมดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งปรากฏว่า คงดอกเบี้ยระยะสั้น และส่งสัญญาณจะปรับลดงบดุลบัญชี ทำให้ดัชนีปิดตลาดที่ 1,670.49 จุด ลดลง 0.16 จุด หรือ -0.01% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 54,494 ล้านบาท

ทั้งนี้ช่วง 4 วันทำการ สถาบันขายสุทธิ 1,745.21 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 2,213.83 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 2,437.91 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศซื้อสุทธิ 1,951.28 ล้านบาท

แนวโน้มสัปดาห์หน้า (25-29 ก.ย. 2560) บล.เอเซีย พลัส ประเมินดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,685 จุด โดยต้องติดตามการอ่านคำพิพากษาของอดีตนายกฯ ?ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร?

ภาวะค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวแข็งค่าในกรอบแคบ โดยต้นสัปดาห์ (18 ก.ย.) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.08/10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากการปิดเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน (15 ก.ย.) โดยระหว่างวัน ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าเล็กน้อยที่ 33.06-33.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 33.06/08 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

กลางสัปดาห์ (20 ก.ย.) ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 33.07 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยรอผลประชุมของเฟด ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย ซึ่งเมื่อผลประชุมเฟดคงดอกเบี้ย ทำให้ดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าขึ้น กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามาเปิดตลาดท้ายสัปดาห์อยู่ที่ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ


สัปดาห์นี้ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย คาดค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอยู่ในกรอบ 33.05-33.18 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เพราะทุกสิ้นเดือนจะมีการซื้อดอลลาร์สหรัฐก่อนปิดงบประมาณประจำเดือน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้