‘สนธิรัตน์’ โผล่! หลังพายุยึดพรรคสงบ ชงแพ็กเกจฟื้นเศรษฐกิจ

แฟ้มภาพ

“สนธิรัตน์” จากฟื้นจากเมาหมัดในสงคราม “ยึดพรรค” และข่าวเขย่าขวัญ “ปรับใหญ่” ทั้งในคณะรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

โดยแกนนำ-หัวขบวนในการเขย่า ครั้งล่าสุด คือลูกข่าย พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค

ข่าวปล่อย-ลอยออกจากผู้มีบารมีนอกพรรค ระบุว่า จะเปลี่ยนหัวหน้าพรรค จากนายอุตตม สาวนายน รมว. คลัง และหัวหน้าพรรค  เป็น พล.อ.ประวิตร

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรค จะถูกผลักออก แล้วดัน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค

ทำให้ “สนธิรัตน์” นั่งไม่ติดเก้าอี้ นานนับ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางปัญหา “ค่าไฟแพง” ทั้งแผ่นดิน

แต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อทั้งหัวหน้า-เลขาธิการพรรค ลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ด้วยสีหน้า และภาษากายที่แสดงถึงการ “กำชัยชนะชั่วคราว”

“ท่านนายกฯ ให้กำลังใจ แล้วท่านก็ชี้แนะ ว่า เรื่องของพรรคก็น่าจะเรียบร้อยได้โดยการหารืออย่างใกล้ชิด ซึ่งผมและเลขาธฺการพรรคมีความตั้งใจที่จะทำงาน และท่านนายกฯ ก็บอกว่า ให้ทำหน้าที่ ทำงานต่อไป ที่ทำอยู่ในวันนี้ ทำด้านไหนอยู่ก็ทำต่อไป” นายอุตตมกล่าว

ขณะที่นายสนธิรัตน์พูดเสริมว่า “ผมว่ายุติแล้วครับ ทุกอย่างยุติแล้ว ไม่มีอะไร อย่าไปมองว่าจะมีอะไร ไม่มีอะไร ทุกอย่างต้องยุติ ทุกคนมุ่งทำงาน ความขัดแย้งภายในพรรค..เป็นความเห็นแตกต่างกัน ทั้งหมดอยู่ที่การพูดคุยกัน”

เมื่อคลื่นลมการเมืองสงบชั่วคราว…สนธิรัตน์ ก็มีสมาธิ ออกมาปรากฏความเห็นและข้อเสนออีกครั้ง

ล่าสุด 9 พฤษภาคม 2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โผล่ออกมาเสนอมาตรการเศรษฐกิจ ในกระแสโควิด-19 ในนาม “มาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชน” ของ กระทรวงพลังงาน

“เรื่องมาตรการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ กระทรวงพลังงานกำลังเตรียมนโยบายพลังงานในการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ โดยในสัปดาห์หน้าจะคลอดโปรแกรมหลายโปรแกรม ออกมาบางส่วนเป็นโครงการเดิมที่วางแผนไว้แล้ว จะมีการเร่งรัดขึ้นมา ขณะที่บางส่วนจะเป็นโครงการใหม่ โดยใช้พลังงานเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานรากแบบยั่งยืนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของการฟื้นฟูจากโควิด- 19 เมื่อโครงการเสร็จแล้วกระทรวงพลังงานจะนำเสนอเข้าไปในแพ็คเกจของทีมเศรษฐกิจ โดยมีแนวโน้ม แพ็คเกจของทุกกระทรวงจะเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า ที่เงียบหายไปนั้น กระทรวงทำงานตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 อาทิ ราคาน้ำมัน เช่นราคาน้ำมันในตลาดโลกมีทิศทางขาลง ปกติจะเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อเป็นการสะสมแต่ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการเก็บเต็มเหมือนทุกครั้ง แต่เก็บเข้าน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น เพื่อลดภาระค่าน้ำมันของประชาชน เรื่องแก๊ส LPG ลดไปมากกว่าราคาที่ควรจะเป็น

“ในหลักการเราน่าจะลดประมาณถังละ 15 บาท แต่เราลดให้ถังละ 45 บาท ถือเป็นการลดล่วงหน้า เพราะจากการประเมินสถานการณ์ เรื่องโควิด-19 เพื่อทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อนจากการมีรายได้ที่น้อยลง ส่วนเรื่อง NGV เดิมราคา 13.60 บาท กระทรวงพลังงานก็ได้ปรับลดให้เหลือ 10.60 บาท เพื่อช่วยภาคขนส่ง ที่ต้องใช้รถสาธารณะ ส่วนค่าไฟฟ้าเมื่อทราบความเดือดร้อนของประชาชน คนที่มีรายได้น้อย ใช้ไฟไม่เกิน 150 ยูนิต ก็ใช้ฟรี 3 เดือน ส่วนคนชั้นกลาง ใช้ไฟเดือนกุมภาพันธ์เท่าไหร่ เมื่อทำงานที่บ้านหากไม่เกิน 800 ยูนิตหรือใช้ไฟสูง เกิดจากเดือนกุมภาพันธ์ ก็ให้ใช้ฟรีหมด”