ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษกำลังจะกลับมา “รีสตาร์ท” อีกครั้ง 17 มิ.ย.นี้
เช่นเดียวกับสภาผู้แทนราษฎรของไทย “รีสตาร์ท” เปิดฤดูกาลใหม่แล้ว ในการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขผลกระทบโควิด -19 วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.สายบู๊ แห่งพรรคก้าวไกล ใส่สูท – ผูกเนคไท เปิดฉากอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ ในนามพรรค อย่างฉะฉาน เช่นเดียวกับเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ เขาเป็นผู้ฉีกหน้ากากยุทธการ IO ของฝ่ายความมั่นคง ออกเป็นชิ้นๆ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว
แต่ทั้งสองเวที สองแมชต์ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญ ไม่แพ้ข้อมูลลับๆ ในมือขณะอภิปราย คือการสวมเนคไท “ลิเวอร์พูล” เสริมความมั่นใจ
แฟน “หงส์แดง” ในโลกโซเชียลฮือฮาไปตามกัน ถึงขั้นสืบข้อมูลแหล่งที่มาว่าเป็นเนคไท ซึ่งวางขายในร้าน LFC official club store ที่สนามแอนฟิล
หากกรีดเลือดออกมา เขามีเลือด “The kop” เข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นแฟนหงส์แดงมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ให้ย้อน พ.ศ.กลับไปว่าเริ่มเชียร์ตั้งแต่ตอนไหน เอาเป็นว่า “ตั้งแต่จำความได้”
“จำได้ว่ายุคจอห์น บาร์นส์ ไมเคิล โทมัส เอียน รัช เล่นดีมาก ยิงกระจุย แต่ทำไมไม่ได้แชมป์ล่ะ น่าสงสารมาก เลยเชียร์ลิเวอร์พูล ตั้งแต่นั้นยังไม่เคยได้แชมป์ลีก”
ตามข้อมูลฤดูกาล 1989-1990 ลิเวอร์พูลเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งสุดท้าย เมื่อ 30 ปีก่อน
“หงส์แดง” ของวิโรจน์ จวนเจียนที่จะได้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษอีกครั้ง ขอแค่ชนะอีก 2 เกม เก็บ 6 คะแนนเท่านั้นก็คว้าถ้วยแชมป์ที่รอคอยมา 3 ทศวรรษ แต่บังเอิญ ไวรัสโควิด-19 จู่โจมไปทั่วโลก ทำให้ฟุตบอลต้องปิดลีกหนีไวรัสชั่วคราว
วิโรจน์ ลั่นวาจาว่า ถ้าไม่มีอุบัติเหตุ “ลิเวอร์พูล” ต้องได้แชมป์
“แต่ถ้าไม่…ก็คือซวย”
ถ้าให้เปรียบพรรค “ก้าวไกล” ที่เขาสังกัดเป็นเหมือนทีมไหน “วิโรจน์” ตอบดังฟังชัด ไม่ต่างกับอภิปรายในสภา
“แน่นอน ลิเวอร์พูล เราไม่ใช่กาลาติกอส เรอัล มาดริด ไม่มีดาวเตะระดับโลก ค่าตัว 200 ล้านปอนด์ แบบเนย์มาร์ แต่เรามีความกลมกล่อมเพราะเล่นด้วยกัน ผู้เล่นแต่ละคนรู้หน้าที่ของตัวเอง เป็นกองหลังก็เป็นกองหลังที่รู้ว่าเล่นบทบาทไหน เป็นกองหลังไม่จำเป็นต้องเฝ้าประตู รู้ว่าเมื่อไหร่ต้องดันเกมขึ้นสูง เพื่อเพรสซิ่งฝ่ายตรงข้าม คนที่เล่นเป็นปีกก็โยนบ้าง ตัดเข้าในบ้าง”
“ก้าวไกล กลมกล่อม ต่างรู้หน้าที่ ไม่เคยทะเลาะกันเรื่องแบ่งกันอภิปราย การอภิปรายของเราวาง story ใครอภิปรายก่อน อภิปรายหลัง วางเนื้อหากันให้ชัด เพื่อเวลาตัดของเนื้อหาของแต่ละคนมาต่อกันจะเป็นละครเรื่องยาว วาง message ที่ประชาชนดูแล้วเห็นภาพตั้งแต่แรกจนจบ แล้วรู้เรื่องในสิ่งที่เราต้องการสื่อสาร และเห็นวิสัยทัศน์ของเราที่เป็นไปได้และทำได้จริง จะเป็นอย่างนี้ได้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ”
“ตอนนี้ระบบการทำงานของก้าวไกล ยังเหมือนกับอนาคตใหม่ มี co-working space ที่พรรค ทุกคนมาทำงานร่วมกัน เหมือนกับตอนนักศึกษา ผมรู้สึกกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง เหมือนกับเราทำรายงานกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัย ไม่รู้พรรคอื่นเป็นอย่างไร แต่พรรคเราเป็นอย่างนี้ แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน”
แม้แต่ “วิธีทำงาน” ในก้าวไกล “วิโรจน์” ยังหยิบสไตล์การทำทีมของ “เจอร์เกน คล็อปป์” กระตุ้นเพื่อนร่วมทีม
“ทุกคนมีความสำคัญหมด วันนี้อยากให้พรรคก้าวไกลเป็นเหมือนลิเวอร์พูลจริงๆ นะ เวลาพูดกับน้องๆ ในพรรค ต้องพูดภาษาฟุตบอล เฮ้ย..น้องเราต้องช่วยกันเพรสซิ่งนะ ในเมื่อเราจะเพรส สื่อสารเรื่องนี้กับประชาชน เช่น เรื่องการเปิดเทอม เราอย่ามองเฉพาะเด็กที่ดูแลได้ แต่เราต้องมองถึงครอบครัวแหว่งกลางที่พ่อแม่ทำงานต่างถิ่น แล้วต้องเอาลูกมาอยู่กับ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือเด็กในเมืองที่พ่อแม่ทำงานทั้งคู่ ไม่มีใครดูแลลูกได้ ทำไมรัฐบาลต้องเหมารวม สำหรับพ่อแม่ที่ดูแลลูกได้ก็ให้ลูกเรียนออนไลน์ ส่วนพ่อแม่ที่จนใจก็ให้พาลูกมาเรียนที่โรงเรียน แม้มีความเสี่ยงอยู่บ้างแต่เสี่ยงน้อยกว่าปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังเช่นกัน และเสี่ยงที่จะติดโควิด”
“หรือแม้แต่ทำไมไม่ได้เงินเยียวยา 5 พัน ซึ่งเรื่องนี้ก้าวไกลก็กัดไม่ปล่อย ส.ส.เขต และส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องช่วยกันเพรส มันสนุกดีนะ”
การเล่นเกมแบบ “เกเก้น เพรสซิ่ง” เพื่อนเราคนไหนพลาดก็ไม่คิดว่าจะต้องโกรธกัน ติกัน เราต้องช่วยกันไล่บอล เป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนเราเสียบอล แทนที่จะด่าเพื่อนเราต้องรีบมาไล่บอล มันก็ทำให้การทำงานเป็นทีมมีความสุขดีมากๆ”
แล้วถ้าเปรียบตัวเองเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนไหน “วิโรจน์” คิดก่อนจะยกชื่อตำนาน “แบ็คซ้ายตีนระเบิด”
“ชีวิตผมไม่ใช่ศูนย์หน้าที่ต้องยิงประตู เป็นคนสบายๆ ไม่ชอบมีพิธีการ จริงๆ การเป็นโฆษกพรรคเป็นเรื่องกังวล เพราะทำให้เราสูญเสียความอิสระ ไม่ชอบอยู่บนเวที แต่ถ้าเปรียบเทียบของเป็น ยอร์น อาเน่ ริเซ่ เป็นแบ็คซ้ายที่ยิงประตูได้ ถึงจังหวะที่จำเป็นต้องยิงประตูก็ยิง และต้องขึ้นแล้วต้องลงให้เร็ว”
ส่วน “เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์” แบ็คซ้ายดาวรุ่งฟอร์มกระฉูดในยุคปัจจุบัน “วิโรจน์” บอก “ไม่เอา.. เก่งเกินไป”
“เป็นริเซ่ ยิงตูมๆ นะ มันต้องดุดันสิ อาร์โนลด์มันไม่ดุดัน และริเซ่ยังเป็นที่รักของเพื่อนทุกคน”
ก่อนหน้านี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์ “มติชนทีวี” ว่า เขาเป็นแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
แต่ไม่ว่า “ยอร์น อาเน ริเซ่” หรือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ต่างก็เป็น “แบ็ค” ธรรมชาติทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องใครเป็น “กัปตันทีม” ของ “ก้าวไกล” วิโรจน์ บอกพูดยาก “เพราะก้าวไกลทำงานทำงานเป็นทีม”
“แต่กัปตันทีมของก้าวไกล ไม่ใช่คนที่แบกทีม ดังนั้น กัปตันทีมต้องเป็นคนที่เพื่อนๆ รัก เหมือนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ยิงประตูกันแหลกลาญ ไม่ใช่แบบดีเอโก มาราโดนา แต่จอร์แดน เป็นคนที่เพื่อนๆ ไว้วางใจ และรู้ว่าเขาตั้งใจดี รักพรรคมากมาย หลายคนที่สามารถปรับเปลี่ยนขึ้นมาเป็นกัปตันได้ ขึ้นอยู่กับการมองมุมไหน”
ถ้ามองในมุมเศรษฐกิจ จะมีชื่อของ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ถ้าเป็นประเด็นการเชื่อม ส.ส.เข้าด้วยกัน จะเป็น “พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ถ้าเป็นประเด็นกฎหมาย คือ ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค เป็นคนที่ปิดทองหลังพระมากๆ มองข้อกฎหมายของเพื่อนทุกคน เป็นข้อกฎหมายของตัวเอง
“นี่คือความดีงามของก้าวไกล ไม่มีระบบมุ้งในพรรค ทุกคนทำงานเหมือนกับองค์กรองค์กรหนึ่งจริงๆ ความขัดแย้งก็มีบ้าง แต่เป็นความขัดแย้งของเพื่อน ที่ไม่มีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง สุดท้ายก็เคลียร์กันได้ ไม่มีการแซะขาเก้าอี้กัน”
